วันนี้ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน PwC Inspire Talk Series ที่บริษัทจัดขึ้นโดยมีรูปแบบเป็น Panel Discussion โดยจะมีพิธีกร (Moderator) ในการแนะนำผู้เข้าร่วมอภิปราย (Panelists) โยนคำถามให้แต่ละท่านได้แสดงความคิดเห็น และคุมเวลาไม่ให้เกินกำหนด แน่นอนว่าครั้งแรกสุดที่จัดก็ต้องเชิญคณะผู้บริหารสูงสุดของบริษัท เรียกได้ว่ายกขโยงมากันเกือบทั้งบอร์ด รวม 5 ท่าน นำทีมโดย Executive Chairman ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่รวบรวมมาได้จาก 45 นาทีของการอภิปรายค่ะ ธีมหลักจะมีอยู่ 3 ธีมด้วยกัน คือ Getting ahead in life, Managing time & stress และ Networking efficiently (ปล. ขออนุญาตไม่ใส่ “” เพราะไม่ได้ quote ประโยคมาเป๊ะเด๊ะ สรุปใจความมาเขียนอีกทีหนึ่ง) 1. Getting ahead in life ทำยังไงให้การงานก้าวหน้า Always be willing and volunteer to try new ...
Read More »Working in Singapore
ชีวิตต่างถิ่น ณ ดินแดนสิงคโปร์ : 7 นิสัยควรมีไว้ในการทำงานต่างประเทศ
เนื่องจากใกล้จะครบปีที่ได้ถูก export ออกมานอกประเทศ ถึงแม้จะเป็นที่ใกล้ๆอย่างสิงคโปร์แต่ก็ทำให้ได้เปิดหูเปิดตาว่าเค้าเป็นอยู่ทำงานกันอย่างไร วันนี้เลยถือโอกาสนั่งวิเคราะห์ลักษณะนิสัยที่ควรมี ถ้าอยากทำงานได้อย่างราบรื่นในต่างประเทศ สรุปออกมาเป็น 10 นิสัยหลัก ดังนี้ หมายเหตุ เป็นประสบการณ์และมุมมองของคนอายุ 24 ปีที่ทำงานที่ประเทศไทยมา 2 ปี และทำงานต่างประเทศมาเกือบปี ผู้อ่านระดับน้องๆจบใหม่หรือคนเพิ่งเริ่มทำงานน่าจะได้ประโยชน์สูงสุด จะดีใจมากถ้าพี่ๆคนไหนมีมุมมองหรือประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังสอนน้องๆ (แต่ขอให้เป็นในทาง constructive comments/sharing นะคะ) 1. Independent (พึ่งพาตัวเอง คิดเองเป็น ทำอะไรคนเดียวได้) สำหรับฉันถือว่าเป็นนิสัยที่สำคัญที่สุดทำเรื่องการทำงานและเรื่องส่วนตัวในการมาอยู่ต่างประเทศ ส่วนตัวคิดว่าเด็กไทยเราถูกสอนให้ทำตามคำสั่ง มี instruction ให้พร้อมตลอดเวลา ไม่ได้บอกว่าคิดเองไม่เป็น แต่การศึกษากระตุ้นให้พวกเรารู้จักทำอะไรเองน้อยมากเมื่อเทียบกับเด็กจบใหม่ที่นี่ เช่น เวลาหัวหน้าสั่งงาน เค้าจะบอกว่าไปทำ Competitive Intelligence Analysis มา สั้นๆ แต่แม่ม มันคืออะไรฟะ แล้วยังถามต่ออีกว่าจะส่ง draft ให้เค้าดูได้วันไหน นอกจากจะไม่อธิบายว่าม้นคืออะไร ยังให้ตรูคิด deadline เองอี้กกก พอประเมินเยอะๆก็ต้องหาเหตุผลมารองรับให้ได้ว่าทำไมต้องการเวลาเยอะ เป็นต้น (ไม่ได้แปลว่าถามไม่ได้ เพียงแต่เค้าจะไม่มานั่งอธิบายว่าคืออะไร ทำยังไง ต้องไปศึกษาแล้วรวบรวมคำถามไปถามทีหลัง) ทุกอย่างต้องผ่านการคิดคำนวณหาทางออกมาก่อนค่อยไปคุยกับเจ้านาย อีกตัวอย่างคือ ...
Read More »ชีวิตต่างถิ่น ณ ดินแดนสิงคโปร์ : ฉันจะไม่ยอมโดนด่าฟรี! ปฏิบัติการต่อสู้ Negative Feedback
เป็น post ที่เกี่ยวกับงานอันแรกของปี (หลังจากมีแต่รีวิวท่องเที่ยวมานาน) คราวนี้รับรองว่าแซ่บบบบ ทั้งยังเป็นประสบการณ์ที่มีค่า เป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของชีวิต Background ขอย้อนเวลากลับไปเล่าตั้งแต่ตอนช่วงกลางพฤศจิกายนของปีที่แล้ว ช่วงที่ฉันถูกปลดออกจากโปรเจคที่ทำอยู่และโชคดีที่หาโปรเจคใหม่มาเสียบต่อได้ทันท่วงทีได้ดั๊นนนนนนนนเป็นโปรเจคภายใน (internal project) ที่ไม่สามารถคิดเงินลูกค้าได้ นั่นแสดงว่าบริษัทจะได้กำไรไม่มากนัก เจ้านายจึงพยายามจะขายฉันให้กับแผนกอื่น (ห๊ะ พวกแกทำธุรกิจอะไรกันแน่ – ขายความสามารถนะคะ อย่าคิดลึกกกก) แต่ความสามารถก็ดันไม่ตรงกับที่เค้าต้องการซะงั้น เลยต้องอยู่โปรเจคเดิมต่อไป เกิดปัญหาการเมืองภายในมากมาย ถูกเจ้านายเหม็นขี้หน้าเพราะบังอาจไปทำงานให้กับเจ้านายคนอื่น บลาๆ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดพัดกระหน่ำอย่างต่อเนื่องที่เจ้านายเรียกเข้าห้องดำรับปีใหม่ แล้วให้ feedback มาแบบดีจริงๆ คือไม่มีชิ้นดีจริงๆ อีกทั้งโปรเจคใหม่ที่ได้มาก็หินซะจนแทบกระอัก เรียกว่าโดน manager ด่าน้ำตาซีมทุกวัน บางวัน 3 เวลาหลังอาหาร ทำงานภายในความกดดันวันล่ะ 10 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ บางวันมี 13-14 ชั่วโมง (ปกติจะทนได้อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ long hour, normal pressure ก็ normal hour, high pressure กรุณาอย่ามา 2 อย่างพร้อมๆกัน กุงง) สดๆร้อนๆที่เพิ่งโดนมาคือเจ้านายให้ negative ...
Read More »ชีวิตต่างถิ่น ณ ดินแดนสิงคโปร์ : Dear Diary II (Oct 14 – Dec 14)
เข้าสู่ไตรมาสที่ 2 ของการทำงานในสิงคโปร์ ชีวิตมันช่างท้าทายจนบางทีก็อยากจะตะโกนดังๆว่า พอซักทีเห้อออออออ ให้ตรูได้พักบ้างได้ไหม ทุกวันไปทำงานด้วยความตื่นเต้นว่าจะเจออะไร เรียกได้ว่า แทบไม่มีวันไหนที่น่าเบื่อ เพราะมันท้าทาย เครียด กดดัน ว๊ากกกกก แต่ที่สำคัญที่สุดคือช่วงเวลานี้สอนอะไรกับฉันค่อนข้างเยอะ ทำให้ฉันโตขึ้นและภูมิใจว่าอย่างน้อยก็ผ่านมันมาได้ Oct 14: โปรเจคนอกทีม อดทนกับการดูถูก ต่อสู้กับอคติ ความเดิมตอนที่แล้ว (ละครหรือเปล่า) ฉันถูกมอบหมายให้มาทำโปรเจคของทีม Security แล้วเพื่อนที่ทำอยู่ด้วย ดันลาไปเที่ยว 3 อาทิตย์ ฉันเลยต้องทำงานอยู่กับนายอยู่ 2 คนลำพัง ไปไหนไปกัน ตัวติดกันตลอดเวลา ดูท่าจะโรแมนติกแต่สยองมาก เพราะต้องรองรับอารมณ์ของนายคนนี้อยู่ตลอด เดี๋ยวจะมีตัวละครมาเกี่ยวข้องอีกเยอะมาก จึงขอเรียกนายคนนี้ว่า นายศรีลังกา (เพราะท่านถูก import มาจากประเทศศรีลังกานั่นเอง) ในที่สุด เพื่อนตัวดีก็กลับมาจนได้ ดูสำนึกผิดมากที่ทิ้งฉันไว้กับนายศรีลังกาเลยพาฉันไปเลี้ยงอาหารจีนอย่างดีจนอิ่มหน่ำสำราญ ตอนนั้นฉันโล่งใจมาก คิดว่าสบายละตรู คราวนี้ก็จะทำงานอย่างไม่มีปัญหา สองแรงแข็งขันช่วยกันคงจะดีมาก แต่ทว่าบรรยากาศ(สำหรับฉัน)ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เจ้านายดันเชื่อแต่คุณเพื่อนทั้งๆที่ดิฉันเป็นคนที่ไปพบลูกค้า สัมภาษณ์ลูกค้า จดบันทึกการประชุมกับคุณอยู่ 2 คน แม้จะพูดสิ่งๆเดียวกัน แต่พอฉันพูด นายจะไม่เชื่อ พอเพื่อนพูด นายดันเชื่อ ...
Read More »ชีวิตต่างถิ่น ณ ดินแดนสิงคโปร์ : Dear Diary I (July 14 – Sep 14)
post นี้เป็นบันทึกประจำเดือน (เอ๊ะ ยังไง) ที่ฉันคิดอยากจะเขียนเก็บไว้เพราะเมื่อมองย้อนกลับไป รู้สึกว่าตัวเองได้ผ่านเรื่องราวมาเยอะพอสมควร ไม่ได้มีเนื้อหาเข้มข้นมากนัก เป็นการบันทึกเหตุการณ์ตามลำดับเวลา 3 เดือนแรกของการมาทำงานต่างประเทศครั้งแรกของฉัน สองสัปดาห์แรก ดิ้นรนหางาน ด้านได้อายอด สิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องทำ และเกลียดสุดๆคือ ทุกๆวันของการทำงาน ฉันต้องบันทึก “Timesheet” ระบุว่าวันหนึ่งๆ ใช้เวลาในการทำกิจกรรมอะไร เป็นระยะเวลาเท่าไหร่ ใน 8 ชั่วโมง เช่น – 2.5 ชั่วโมงในการทำกิจกรรม a และ b สำหรับโปรเจค ก.ไก่ – 4.5 ชั่วโมงทำกิจกรรม c, d และ e สำหรับโปรเจค ข.ไข่ – 1 ชั่วโมงสำหรับการทำ e-learning เรื่อง f เพื่อพัฒนาตนเอง ยังไม่พอแค่นั้น อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือสิ่งที่เรียกว่า “Billable Rate” หรือเวลาที่ถูกใช้ไปในการทำงานที่สามารถคิดเงินลูกค้าได้ นับเป็น Key Performance Index (KPI) หรือดรรชนีตัวชี้วัดความสามารถของการเป็น ...
Read More »ชีวิตต่างถิ่น ณ ดินแดนสิงคโปร์ : fit in then fight ปรับใจเพื่อสู้ ให้มันรู้ไปว่าคนไทยก็มีดี
กว่าสองเดือนที่หายหัวไปไม่มาเล่าเรื่อง ไม่มีผลงานออกมา (เก๊าขอโต๊ด) นั่นเป็นเพราะว่ากำลังอยู่ในช่วง settle down หรือช่วงลงหลักปักฐาน มีอะไรให้จัดการค่อนข้างเยอะไล่เรียงไปตั้งแต่ที่อยู่อาศัย อาหารการกิน และที่สำคัญที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการทำงาน การทำงานที่ไทยว่าตื่นเต้นแล้ว ที่นี่ตื่นเต้นยิ่งกว่า ลุ้นกันมันส์วันต่อวันว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตบ้าง เป้าหมายของฉัน ไม่ใช่แค่ต้องปรับตัวเข้ากับการทำงาน เข้ากับคนที่นี่ให้ได้ แต่จะต้องทำให้พวกเขาประจักษ์ให้ได้ว่า คนไทยก็ไม่ได้แพ้ชาติไหนในโลก พอจบหนึ่งปี อย่างน้อยๆ คนครึ่งบริษัทและผู้บริหารซักครึ่งต้องพูดว่า I knew that Thai girl, she impressed me. ถามว่าคนที่นี่ดูถูกเราไหม แบ่งเป็น 2 แบบ แบบแรกคือ ไม่มั่นใจ สงสัยว่าเราจะทำได้หรือเปล่า แบบที่สองคือ ดูถูก หน้าตารู้เลยว่าไม่อยากคุยด้วย มันคนละชนชั้น ปากนี่แบะมาแต่ไกล ก็มี ไอคนแบบนี้แหละที่จะต้องให้มันรู้ว่า ยืนเชิดอยู่บนคอหอยไปเถอะ เผลออีกซักแป๊บจะก้มลงไปจะหาเราไม่เจอ เพราะตรูอยู่บนเทือกเขาเอเวอร์เรสแล้วโว้ยยย แต่อย่าว่าแต่คนที่นี่เลย เพื่อนๆคนไทย แม้กระทั่งตัวฉันเองในตอนแรก ก็ยังสงสัยและหวั่นใจในศักยภาพของตัวเอง เพราะการได้เลื่อนตำแหน่งก่อนมา นั่นหมายความว่าหน้าที่ความรับผิดชอบ ความคาดหวังยิ่งพุ่งสูงขึ้นตามลำดับ แต่แล้วฉันก็คิดได้ใน 2 วันแรกว่าถ้าหากจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ อันดับแรก ต้องปรับ “ใจ” หรือทัศนคติตัวเองก่อน ...
Read More »ชีวิตต่างถิ่น ณ ดินแดนสิงคโปร์ : 8 อย่างของสิงคโปร์…ที่เมืองไทยน่าทำตาม
ก่อนที่ฉันจะมาทำงานที่นี่ มีแต่คนบอกว่า “สิงคโปร์หรอ ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ ร้อนก็ร้อน แคบก็แคบ สถานที่ท่องเที่ยวก็มีแต่สิ่งปลูกสร้าง เที่ยววัน 2 วันหมด น่าเบื่อจะตาย” แต่เมื่อมาสัมผัสจริงๆแล้ว ฉันกลับค้นพบว่า สิงคโปร์มีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่คิด และมีหลายๆอย่างที่ทำให้ประเทศนี้พัฒนาก้าวหน้าอย่างไม่น่าเชื่อ post นี้เป็นความประทับใจอันดับแรกๆของฉันเมื่อได้มาใช้ชีวิตในประเทศเล็กๆที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทย 1. สะอาดมากกกกกกกกกกกกกกกก ถามว่าอะไรที่ประทับใจสุดๆแล้วในสิงคโปร์ คงหนีไม่พ้นเรื่องความสะอาด แทบจะลงไปกลิ้งกับพื้นกันเลยทีเดียว สิ่งที่รัฐทำคือการปรับคนที่ทิ้งขยะไม่เป็นที่ อะไรที่เป็นสิ่งที่อาจก่อให้เกิดความสกปรกรำคาญใจก็แบนมันซะ เช่น หมากฝรั่ง จะไม่มีขายที่ไหนในสิงคโปร์ ต้องลักลอบนำเข้ามาเอง ดังนั้น ของฝากอันดับต้นๆของคนสิงคโปร์ที่ไปต่างประเทศก็คือหมากฝรั่งนั่นเอง ต้องแอบกินด้วยนะ 555 สิ่งที่เจริญหูเจริญตาอีกอย่างคือที่นี่ไม่มีร้านข้างถนนให้เกะกะทางเดิน นอกจากจะไม่สร้างขยะแล้วยังทำให้สามารถเดิน วิ่ง ออกกำลังกายได้สะดวกอีกด้วย นอกจากนั้น รัฐยังจ้างคนมาทำความสะอาดตามที่ต่างๆให้เนียบนิ้งอยู่เสมอ (ส่วนใหญ่จะเป็นคนแก่ ทำให้คนแก่มีรายได้ไปในตัว) 2. การคมนาคมที่โค-ตะ-ระจะเจ๋ง พี่แกทำออกมาได้สุดๆ ครอบคลุมทั่วถึงแทบทั้งประเทศจริงๆ หากไม่นับการมีรถส่วนตัว เราสามารถเดินทางไปที่ต่างๆได้หลักๆ 3 วิธี รถไฟใต้ดิน หรือเรียกว่า MRT เหมือนบ้านเรา มีอยู่ 5 สาย (วิธีเรียก ที่นี่จะเรียกกันเป็นสี เช่น เขียว แดง ...
Read More »ชีวิตต่างถิ่น ณ ดินแดนสิงคโปร์ : 14 วันแสนสบายใน Park Avenue Clemenceau
ในช่วงเริ่มต้นของการย้ายถิ่น ภารกิจที่สำคัญที่สุดคือการหาที่พัก (ห้องเช่า) แน่นอนว่าระหว่างๆ ฉันจะเป็นคนไร้ที่อยู่ แต่เผอิญโชคดีว่า ฉันได้รับการเอื้อเฟื้อจากบริษัทให้มาพักที่ Park Avenue Clemenceau ซึ่งเป็น service apartment เป็นเวลา 14 วัน ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ถ้าทำงานไม่ครบตามสัญญาจะต้องจ่ายคืนทั้งหมด
Read More »ชีวิตต่างถิ่น ณ ดินแดนสิงคโปร์ : เตรียมตัวย้ายถิ่นฐาน
แม้ฉันจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่สิงคโปร์เป็นระยะเวลาไม่นาน แต่ก็มีอะไรให้ตระเตรียมค่อนข้างเยอะ เนื่องจากฉันไม่เคยต้องจากบ้านไปไปไกลขนาดนี้มาก่อน (อย่างมากก็ย้ายไปอาศัยอยู่หอหรืออพาร์ทเมนท์ในจังหวัดข้างเคียง) จึงอาศัยทั้งการถามจากผู้มีประสบการณ์และอากู๋ ผนวกกับคุณแม่ที่เป็นกำลังสำคัญในภารกิจครั้งนี้ ทำให้ย้ายถิ่นประสบความสำเร็จไปด้วยดี แม้จะทุลักทุเลระดับหนึ่งก็ตาม
Read More »ชีวิตต่างถิ่น ณ ดินแดนสิงคโปร์ : Make the Impossible Possible จุดเริ่มต้นของโอกาสในการไปทำงานต่างประเทศ
หนึ่งในความฝันของฉัน คือการได้ไปเรียนต่างประเทศ ได้ขี่จักรยานไปในถนนที่มีใบไม้สีแดงโปรยปราย ปีนเขาชะโงกดูน้ำตก หมกตัวพิงไฟอยู่ในห้องท่ามกลางพายุหิมะโหมกระหน่ำอยู่ภายนอก และแล้ว ฝันของฉันก็เป็นจริง อาจจะไม่ได้จริงทั้งหมด เพราะฉันไปทำงานไม่ได้ไปเรียน แถมประเทศที่ฉันไป ก็ไม่ได้มีใบไม้เปลี่ยนสี ภูเขา น้ำตก หิมะ หรืออะไรทั้งสิ้น เพราะประเทศที่ฉันกำลังจะ export ตัวเองไปในไม่กี่วันนี้ มีชื่อว่า สิงคโปร์
Read More »