รูปมีไม่เยอะค่ะวันนี้ สู่โหมดผจญภัยเต็มรูปแบบ
ตารางเที่ยววันนี้
18 Feb 2015
วันนี้ตื่นเช้ามามองลอดกระจกออกก็รู้แล้วว่าไม่มีทางขึ้นบอลลูนได้ หิมะตกหนักที่สุดในรอบ 3 วันที่อยู่ที่เลยทีเดียว
กินข้าวเช้าเสร็จก็เดินไปเคลียร์ค่าห้องเตรียมตัวออกเดินทางตามแผน
ถือว่าเป็นค่าห้องที่แพงที่สุดในบรรดาโรงแรมที่จอง คืนละ 60 EUR (2,250 THB) Green Tour อีกคนละ 35 EUR (1,312 THB) และค่ารถ Shuttle จากสนามบิน Kayseri ถึงโรงแรมอีกคนละ 10 EUR (375 THB) จริงๆค่ารถตามที่ตกลงกันว่าคือฟรีถ้าขึ้นบอลลูนด้วย อันนี้อดขึ้นเลยไม่ฟรี แต่โรงแรมก็ลดค่า Green Tour ให้ 5 EUR ถือว่าเจ๊ากันไปก็แล้วกันเนอะ ฮือออออ
เนื่องจากหิมะกลบรถจนเกือบมิด ออกมายืนอึ้งอยู่ 2 วิ ต้องวิ่งกลับไปขอพนักงานมาช่วยปัดออกให้
มาพร้อมแปรงอเนกประสงค์
บ๊ายบาย Sultan Caves Hotel ไว้มาใหม่รอบหน้าน้าาาา
ทางข้างหน้า ทั้งชันทั้งลื่น ไม่รู้จะไปยังไง ต้องขับขึ้นไปอ้อมอีกทางหนึ่ง
ขออัญเชิญแผนที่มาอีกรอบ การจะขับจาก Goreme ไปเมือง Kayseri ซึ่งเป็นที่ตั้งของหนึ่งในสนามบินที่ใกล้ Cappadocia ที่สุดนั้นมี 2 ทาง คือออกที่เมือง Avanos หรือ Urgup พวกเราเลือก Urgup เพราะ Avanos นั้นไปบ่อยแล้ว
เห็น Uchisar Castle อยู่ แต่เลือนรางเหลือเกิน
ถนนร้างมากจริงๆ เข้าใจอยู่เพราะทัศนวิสัยย่ำแย่ หิมะเยอะเว่อร์เลยทำให้ลื่นมาก เห็นรถคันหน้าไถลจากถนนฝั่งหนึ่งไปชนต้นไม้ริมถนนอีกฝั่งหนึ่งต่อหน้าต่อตา เปิดกระจกไปถาม ดีว่าคนในรถปลอดภัย
เห็นแบบนี้แล้ว จากที่เหยียบมา 50 km/hr เลยเหลือ 30 km/hr โดยปริยาย คลานตาม GPS ที่มามีประโยชน์เอาวันนี้ ค่อยชื่นใจหน่อยที่เสียเงินเช่ามา
ทัศนวิสัย ละเหี่ยใจยิ่งนัก
ขับไปซักพักเริ่มลื่นจนคุมไม่ไหว ต้องแวะจอดข้างทางเพื่อใส่ snow chain ตอนนั้นรู้สึกเสียใจอย่างสุดซื้งที่ไม่ศึกษามาให้ดี เลยทำอะไรไม่ได้นอกจากออกไปยืนหนาวท้าหิมะเป็นกำลังใจ(แบบไร้ประโยชน์)ให้คุณสำลี
โชคดีอย่างสุดซื้งที่มีตำรวจตระเวนดูความเรียบร้อยผ่านมาพอดี จริงๆกำลังเล็งถ่ายหมาหิมะเห็นรถตำรวจมาลิบๆเลยโหวกเหวกโวยวาย เต้นระบำได้คงทำไปแล้วแต่หนาวเกิ๊น
ได้ผล ตำรวจเห็น (ก็ตัวใหญ่ซะขนาดนั้น ไม่เห็นก็เว่อร์แล้ว) เดินข้ามไป ณ จุดเกิดเหตุทันที
การใส่ snow chain ที่ง่ายที่สุดคือให้คนอื่นใส่ให้ คุณสำลีได้กล่าวเอาไว้
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป (ขนาดโปรทำ ถ้าทำกันเองสงสัยหิมะหยุดตกแล้วยังใส่ไม่เข้า) สำมะเร็จ
ถ่ายรูปเป็นที่ระทึก
ออกรถต่อ เหมือนนั่งอยู่บนรถไฟ snow chain ตีกับตัวล้อเสียงดังมว๊าก ตำรวจบอกว่าปกติ ขับๆไปเถอะ ทัศนวิสัยย่ำแย่กว่าเดิมอีก 10 เท่า ชีวิตตรู จะถึงไหม Kayseri
แวะเติมน้ำมันอีก 30 TL ไม่อะไรมากหรอก เด็กปั๊มแซ่บเว่อร์ เป็นคนอูซเบกิสถานพูดอังกฤษได้น้อยมาก ชวนกินกาแฟอีกตะหาก ไว้โอกาสหน้านะน้อง แฟนพี่ยืนหน้าโหดอยู่นี่ ขนาดแค่ถ่ายรูปนางยังเหล่เลย ชะอุ้ยยย
มัสยิด โดดเดี่ยวอะไรเช่นนี้
ในที่สุดก็หาทางเข้าเมือง Kayseri ได้ รู้ทั้งรู้ว่า Ski Center ไม่น่าจะเปิด แต่ไหนๆมาแล้ว น้ำมันเหลือก็ลองไปดู มุ่งขึ้น Mt. Erciyes หา Ski Center จนเจอ
ร้างมาก
หิมะกระหน่ำขั้นสูงสุด
ถึงจะปิดแต่ถือว่าประสบความสำเร็จในการงมหาทาง ถ่ายรูปซักหน่อยก็ยังดีฟระ
ภารกิจต่อไปคือหาทางไปโรงแรมให้ได้ ดีที่ในใบจองมีละติจูด ลองจิจูดให้ ถึงจะเป็น GPS สัญชาติตุรกีก็เหอะ พิมพ์เข้าไปสบายเฮ
โรงแรมอยู่ใกล้สนามบินพอสมควร มีแต่ป้ายไปสนามบิน คุณสำลีรำพึงออกมาว่าอากาศแบบนี้เครื่องบินจะขึ้นได้หรือเปล่า แกอย่าพูดสิ ชั้นกลัว เรื่องนั้นค่อยว่ากันทีหลัง เช็คอิน หาข้าวกินให้สมองปลอดโปร่งก่อน
ที่โรงแรมให้จ่ายสด งงเล็กน้อยนึกว่าจะตัดบัตร โดนค่าห้องไป 100.7 TL (1,300 THB) ถ้า walk in 129 TL นะจ๊ะ ราคานี้ไม่รวมอาหารเช้า เพราพรุ่งนี้เราจะต้องออกไปสนามบินแต่เช้ามืด มาดูสภาพห้องกัน
เรียบง่ายตามมาตรฐาน Ibis แต่ไม่มีเอกลักษณ์ใดๆที่บ่งบอกความเป็นตุรกี ห้องน้ำค่อนข้างกว้างขวางถูกใจโจ๋
มองลงไปที่ลานจอดรถทำไมมันขาวเยี่ยงนี้
นั่ง search สถานที่ที่ไปเดินเล่นฆ่าเวลาได้ ดูเหมือนจะมีไม่มากเพราะเมืองนี้ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว ที่มีคือ Ski Center กับสนามบิน หาไปหามาเลยตัดสินใจว่าจะไป Bazaar กัน แต่ตอนนี้ขอไปหาอะไรรองท้องก่อนเด้อ
จัดเต็มมาก อันนี้ไก่ถาดร้อนกับขนมปังพิซซ่า อย่างถูก 10 TL เท่านั้น สลัดแอบเผ็ดเล็กน้อย
meat ball 7 TL กินจนจุก
เข้าใจเลยว่าไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว ข้าวของถูก ผู้คนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ย้ำ ไม่ ได้ เลย T^T ลำบากพอสมควร แถมพวกเรายังโดนมองเหมือนตัวประหลาด สะพายกล้องแถมใส่เสื้อกันหนาวสีเด่นซะขนาดนั้น เง้อออ
ขับหา Bazaar อีกเกือบชั่วโมง ถนนหนทางวกวน แถมรถติด สถานที่ก็หาใน GPS หรือ Google Maps ไม่เจอ ถามคนก็ไม่มีใครพูดปะกิตได้ โอ๊ย เศร้า แต่ก็หาจนเจอสินะ สรุปว่าอยู่ใกล้ๆร้านที่กินข้าวเมื่อกี้ ไม่รู้จะไปวนทำไมสองสามรอบ
เดินในนี้นี่เด่นมาก ผู้คนมองกันตาเป็นมัน รู้สึกได้ถึงความเป็นเหยื่อ(ทางการเงิน)
อยู่ดีๆก็มีเด็กคนหนึ่งมาทักว่า Hello, where are you from? คุณสำลีก็เห็นเป็นเด็กอะนะ เลยหันไปตอบว่า Thailand แล้วก็เดินดูตลาดต่อ คิดว่าไม่มีอะไร ซักพัก มีตาลุงคนหนึ่งเดินมาขอทางฉันแล้วชวนคุณสำลีคุย คุยไม่เลิก ถามโน่นนี่นั่นจนฉันต้องรวมวงสนทนาด้วย ลุงแกถามว่าเคยเห็นคาราวานไหม จะพาไปชม ไอเราก็นึกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอะไรซักอย่างเลยเดินตามไปแบบโง่ๆ อันตรายมากจริงๆ
นึกถึง Taken 2 จังหวะนี้ไม่รู้จะหนีหรือตามดี
ลุงแมร่งน่ากลัวมาก
ซักพักลุงพาไปร้านพรมที่แกเป็นเจ้าของ กูว่าแล้ววววววววววววววววววววว
เกือบเชื่อว่าทั้งหมดเป็นเหตุบังเอิญจริงๆถ้าอีลุงไม่เรียกอีเด็กนี่เข้ามา หน็อยยย Where are you from? เมิงไปบอกลุงเมิงมาล่อลวงตรูใช่ไหม แค้นนน ขอถ่ายรูปเป็นหลักฐาน หน้าตาเจ้าเล่ห์มาก ขอนอกเรื่องเล็กน้อย พอดีลุงเลี้ยงชาแอปเปิ้ล เด็กส่งชาแซ่บไปไหม
ซักพักลุงก็ปฎิบัติการ hard sales ทันที พวกเราแอบสื่อสารกันเป็นภาษาไทยอยู่เป็นระยะ ว่าจะหนีไปจากสถานการณ์นี้ยังไงดี
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปก็หลุดออกมาได้ ต้องปฏิเสธเสียงแข็งอยู่ร่วม 10 นาทีหลังจากฟังลุกพร่ำมา 45 นาที เป็นบทเรียนที่ต้องจดจำไว้ว่าอย่าตามใครไปง่ายๆ คิดแล้วยังกลัวอยู่เลย
ออกมาก็มืดแล้ว ยืนถ่ายวิวหน้ามัสยิด รู้สึกโรแมนติกอย่างบอกไม่ถูก
เอามุมกว้างหน่อยไปอีกรูป
ได้เวลาขับรถกลับโรงแรม
Ibis Kayseri ยามค่ำคืน
คนรับรถ ตกลงกันไว้ 4 ทุ่ม แต่พี่แกโทรมาตั้งแต่ 1 ทุ่ม แอบงง แต่ก็ดี ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว จะได้อาบน้ำนอน สรุปเสียค่าน้ำมันไป 80 TL แถมยังใช้ไม่หมด รู้สึกสะดวกและคุ้มมากที่มีรถขับเอง 2 วันเต็มๆ ไปที่อื่นถ้ามีโอกาสจะเช่าอีก ติดใจ
จบวันนี้ไปด้วยความกังวลใจว่าเครื่องบินจะขึ้นได้หรือไม่ ถึงกับเก็บเอาไปฝันเลยทีเดียว รอลุ้นตอนหน้าด้วยกันค่ะ