หน้าฝนผจญภัย เที่ยวไทยยกก๊วน ตอนที่ 2 : ช่วยกันพาย ช่วยกันจ้ำ ณ. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก

ครั้งนี้มีเวลาไม่มาก อยากเที่ยวไม่ไกลจากกรุงเทพนัก หลังจากระดมสมองกันอยู่ 2 วัน ก็ได้เส้นทางและกิจกรรมอันแสนจะทรหดในธีม “หน้าฝนผจญภัย” สมใจอยาก มาดูเส้นทางการผจญภัยกันก่อน

วันที่ 1 (5 ต.ค. 14) : ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก -> พัก @บ้านพักใน อช ภูหินร่องกล้า
วันที่ 2 (6 ต.ค. 14) : น้ำตกหมันแดง
วันที่ 3 (7 ต.ค. 14) : เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ลานหินปุ่่ม – ผาชูธง -> โรงเรียนการเมืองการทหาร -> พัก @บ้านพักในภูทับเบิก
วันที่ 4 (8 ต.ค. 14) : ดูพระอาทิตย์ขึ้น + ทะเลหมอก ที่ภูทักเบิก -> กลับ กทม -> กลับสิงคโปร์ (ม่ายยยยยยย)

ที่เห็นว่าในภาพมีขีดออกไปบ้าง นั่นคือแรงหมด ไปไม่ไหวแล้วจริงๆ ทรหดไปไหมนะ

Capture1_edit

เริ่มทริปกันวันแรก เราจะมุ่งหน้าจาก กทม. ไปที่วนาธารารีสอร์ท จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นจุดนัดพบในกิจกรรมแรก “ล่องแก่งลำน้ำเข็ก” ของพวกเรา ใช้เวลาเดินทางช็อตแรกประมาณ 6 ชั่วโมง

สำหรับล่องแก่ง วันหนึ่งจะมี 2 รอบเท่านั้น คือประมาณ 9.00 น. (ซึ่งไปไม่ทันอยู่แล้ว) และอีกทีคือประมาณ 12.30 น. ดังนั้นจึงต้องออกจากบ้านตั้งแต่  5.30 น. ฟ้ายังไม่สาง แม่ยังงวงเงียใส่ชุดนอนมายืนส่งอยู่เลย

ทริปนี้ เพื่อนๆในก๊วนติดธุระกันเยอะ หรือแผนเที่ยวมันโหดเกินก็ไม่รู้ เลยเหลืออยู่สี่หน่อ ถึงจะเช้าแต่หน้าตาครื้นเครงกันสุดๆ

IMG_4806-horz

เม้าท์มอยกันไปได้แป๊บเดียว ถึงแล้วพิษณุโลกแล้ว (ไม่รู้ว่าคนขับรถกิตติมศักดิ์เหยียบมาเท่าไหร่) เลยไปหาข้าวกลางวันกิน แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมพร้อมที่จุดนัดพบ

สองหนุ่มล่ำประจำทริป แขม่วเต็มที่

DSC09880

เดินสำรวจด้วยความซน พบอุปกรณ์หลักของการล่องเรือ นั่นก็คือ เรืออออ นั่นเอง

DSC09877

ซ้อมไว้ก่อน เดี๋ยวลงจริงจะได้ไม่ตื่นเรือ

DSC09883-horz

ซักพัก คุณสำลีนึกขึ้นได้ว่าแดดกำลังแรง เดี๋ยวผิวนางเสีย เลยวิ่งไปหยิบครีมกันแดดมาทาอยู่คนเดียว  – –

DSC09892

12.30 น. ทีมล่องแก่งขับสองแถวมารับพวกเราไปเตรียมตัวที่ต้นน้ำ พวกเราจองไปกับ Pop Tour บริการเป็นกันเองเลยทีเดียว

มาถึงก็ต้องใส่อุปกรณ์ช่วยชีวิตซึ่งประกอบด้วยหมวกกันน็อคและเสื้อชูชีพ ซึ่งจำเป็นมาก กลุ่มเรามีว่ายน้ำเป็น 2 คน พอเป็น 1 คน และอีกคน คือคุณสำลี มีทักษะการว่ายน้ำเท่ากับศูนย์

อีกฝั่งเค้ายังช่วยกัน ทำไมคุณสำลีไม่ช่วยแล้วยังซ้ำเติม เดี๋ยวถ้าตกน้ำไป จะไม่กระโดดลงไปช่วยเลย

IMG_3475-vert

ก่อนลงสนามจริง จะมีการเทรนท่านั่ง การพาย วิธีการปฏิบัติตนหากพลัดตกน้ำ หรือเรือพลิกคว่ำ ดังนั้นต้องตั้งใจฟังเจ้าหน้าที่กันให้ดี สำคัญมาก

IMG_3477

หลังจากเทรนเสร็จ ก็พากันไปถ่ายรูปกับป้ายเพื่อเป็นสิริมงคลกัน คึกคักใหญ่

IMG_3466

ล่องแก่งลำน้ำเข็กมีระยะทางทั้งสิ้น 8 กิโลเมตร ผ่าน 17 แก่ง (แต่เราจะไปกันแค่ 15 เพราะจะถึงจุดที่เราจอดรถไว้เมื่อตะกี้พอดี) ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง (แล้วแต่ระดับน้ำ) ความยากง่ายตั้งแต่ระดับ 1-5 ซึ่งถือว่ามีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีความพิเศษตรงที่เริ่มจากผ่านเกาะแก่ง ที่ง่ายไปถึงยากตามลำดับ

ระดับความยากง่ายของการล่องแก่ง
ระดับ 1 ง่ายมาก มีแก่งเล็กน้อย น้ำจะไหลไปเรื่อยๆ ไม่อันตราย
ระดับ 2 ธรรมดา น้ำไหลแรงขึ้น เริ่มมีแก่งบ้าง
ระดับ 3 ปานกลาง มีแก่งที่น่าตื่นเต้นมากขึ้น
ระดับ 4 ยาก มีแก่งมาก หรือน้ำอาจจะแรง และมีโขดหินที่ขวางลำน้ำ
ระดับ 5 อันตรายมาก ไม่เหมาะกับการล่องแก่ง อาจเกิดอุบัติเหตุได้

ถ่ายรูปเสร็จก็พากันไปลงเรือ จากที่คิดไว้เมื่อกี้คือทุกคนนั่งอยู่ในเรือ แต่ที่จริงแล้วคือต้องข้างๆเรือ (ไม่งั้นจะพายยังไง) โดยให้นั่งคร่อมไปก่อน สอดขาที่อยู่ในเรือไว้ในหมอนรอง ตั้งขาเป็นมุมฉาก แล้วเอาขาที่เดิมอยู่ข้างนอกอีกข้างสอดเข้าไปที่บริเวณข้อพับหัวเข่า เหมือนตัวอย่างในรูป หลักการนั่งคือจะให้ผู้ชายนั่งหน้า เพราะถือว่ามีกำลังแขนมากกว่า นั่งได้ข้างละ 3 คน ตรงกลางอีก 3 คน มีเจ้าหน้าที่อยู่หัวท้ายเพื่อคัดหางเสือ รวมเรือ 1 ลำนั่งได้ 12 คน แต่เนื่องจากรอบนั้นมีกันแค่ 2 กลุ่ม อีกกลุ่มมากันเต็มลำพอดี กลุ่มเราเลยนั่งกันหร่อมแหร่ม 6 คนรวมเจ้าหน้าที่ ปกติแล้วถ้าระดับน้ำสูงกว่านี้จะลงไม่ได้เพราะน้ำหนักเบาเกินไป เดี๋ยวกระเด้งกระดอนไม่เป็นท่า แต่วันนี้ระดับน้ำปานกลางค่อนข้างน้อย (ปลายฝนแล้ว) เลยถือว่าพอโอเค

IMG_3483

ลงเรือไปก็ยังไม่ออก ต้องซ้อมที่เรียนทฤษฎีมาเมื่อกี้ก่อน

คำสั่งที่ใช้ในการล่องแก่งจะมีทั้งหมด 4 คำสั่ง
1) พาย: คือพายปกติโดยมีจุดประสงค์ให้เรือไปข้างหน้า (แต่ที่ทำตอนนั้นไม่รู้มันไปข้างหน้าจริงหรือเปล่า)
2) ทวน: คือพายทวนน้ำโดยมีจุดประสงค์ให้เรือไปข้างหลัง
3) จับเชือก: จับเชือกเพื่อยึดตัวเราไว้กับเรือตอนเจอกระแสน้ำหนักๆ โดยที่ไม่ปล่อยไม่พาย ถ้าสั่งจับเชือกเฉยๆไม่ควรเอนตัวไปข้างหน้าเพราะจะทำให้ก้นลอยและพุ่งได้ง่าย (คำสั่งนี้ไม่สั่งก็ทำ)
4) หมอบ: จับเชือกแล้วหมอบตัวไปข้างหน้าในกรณีเจอกิ่งไม้

IMG_3501

ซ้อม 4 คำสั่งจนคล่อง พี่เจ้าหน้าที่ให้ผ่าน ก็เตรียมออกเดินทางกันได้

IMG_3505

ระหว่างล่องแก่ง พี่เจ้าหน้าที่จะอธิบายลักษณะลำน้้ำเข็กให้ฟัง คือจะเป็นน้ำนิ่ง สลับการน้ำเชี่ยว ดังนั้นถ้าใครตกไป อย่าพยายามตะเกียกตะกาย เดี๋ยวน้ำจะพัดออกมาหาน้ำนิ่งเอง ระดับน้ำจะเป็นตัวแปรสำคัญของลักษณะกระแสน้ำ น้ำมากกับน้ำน้อยจะสนุกคนละแบบ ขึ้นกับใครไปช่วงไหนฝนตกมาก-น้อย

ช่วงแรกๆ เจอน้ำนิ่งตลอด หลายกิโลอยู่ ร้อนมาก พายจนหมดแรง

IMG_3492

จากที่บอกว่าเจ้าหน้าที่สองคนจะมีหน้าที่คัดท้ายเรืออย่างเดียว เพราะฉะนั้นการพาเรือไปข้างหน้าจะตกเป็นหน้าที่ของพวกเราสี่แรงแข็งขัน ช่วยกันพาย ช่วยกันจ้ำ พาเรือไปข้างหน้า

ในกรณีแดดร้อนจัด เรืออาจระเบิดได้ ต้องหมั่นตีน้ำเข้าเรือ ไปๆมาๆกลายเป็นตีน้ำใส่เพื่อน ถึงไม่ตกก็เปียนปอนกันเลยทีเดียว

ช่างถ่ายรูปที่เราจ้างไว้ จะขี่มอเตอร์ไซค์ไปดักถ่าย ณ จุดสำคัญ (จุดที่มีแนวโน้มว่าจะได้ภาพเด็ดๆ = ตกหรือตีลังกา) ให้ พี่เจ้าหน้าที่จะบอกพวกเราให้เตรียมแอ๊คถ่ายก่อน แต่ไม่ค่อยมีประโยชน์เพราะตอนจริงมัวแต่ตื่นเต้นกลัวตกน้ำ

หลังจากจ้วงผ่านน้ำนิ่งมานานก็ถึงแก่งแรกซักที

IMG_3507

น้ำไม่เชี่ยวมาก ทุกคนยังยิ่มสดใส

IMG_3511

แต่แล้ทำไมเรือมันเอียง

IMG_3514

เอ้ย จะจมแว้วว

IMG_3515

เฮือก รอดดดด

IMG_3516

ผ่านอันแรกมาก็นึกว่าชิวแล้ว ไม่ทันไร เพื่อนได้ลงไปแหวกว่ายจะน้ำสีคาราเมลในแก่งที่มีชื่อว่า แก่งมรดกป่า (จำได้แม่นเลย)

เนื่องจากโอกาสที่จะมีคนตกแก่งนี้น้อยมาก ช่างภาพเลยไม่ได้ประจำอยู่ แต่จังหวะนั้นมันเร็วมาก ก้มหน้าหลบน้ำแล้วเพื่อนหล่นหายไปอยู่ใต้เรือเฉยเลย พี่เจ้าหน้าที่ต้องช่วยลากขึ้นมา พวกเราหรอ ก็ขำกันใหญ่ (เป็นเพื่อนที่ดีจริงจริ๊ง) คนที่ตกน้ำไปก็ไม่ยอมปล่อยพายตามที่พี่เจ้าหน้าที่ได้สอนสั่งไว้ (เพราะมันแพง อันละ 1,500 หายไปทีขาดทุนกันเลยทีเดียว)

แต่ก็ยังสบายดีกันอยู่

IMG_3538

ขณะล่องแก่ง พี่เจ้าหน้าที่จะสั่งให้หยุดรออีกลำตลอดเวลา สงสัยพวกเราแรงดี พายเร็ว เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้น เช่น เรือคว่ำทั้งลำ หรือไปติดอยู่ในน้ำดูด จะได้ช่วยเหลือกันได้

หลังจากนั้นก็มีเรื่องให้น่าตื่นเต้นตลอดเส้นทาง

คลื่นยักษ์ จะสูงไปไหน

IMG_3552

หน้าคนข้างหน้า ได้ใจมาก

IMG_3553

ขอบอกว่ารูปนี้พี่เจ้าหน้าที่เท่โพด

IMG_3556

หายไปทั้งลำเลยทีเดียว

IMG_3561

ทุกงานต้องมีจังหวะฟินาเล่ ล่องแก่งลำน้ำเข็กก็เช่นกัน ก่อนถึงแก่งสุดท้าย พี่เจ้าหน้าที่บอกให้สลับผู้ชายมานั่งท้าย เพราะเดี๋ยวข้างท้ายจะกระเด้งแรงมาก

ขอซักแชะก่อนไปลุย ยังสบายๆอยู่เลย

IMG_3604

พอเห็นแก่งด้วยตาเท่านั้นแหละ สองหนุ่มของเราถึงกับอึ้ง

IMG_3606

ลอยก่อนเลยคนแรก

IMG_3613

หาย?

IMG_3615

ขึ้นมาแล้ว

IMG_3617

ยังไม่หมดแค่นี้

IMG_3619

สภาพแต่ละคนหลังผ่านแก่งฟินาเล่มา

IMG_3628

พอถึงฝั่ง เจ้าหน้าที่เตรียมขนมและน้ำไว้ต้อนรับนักผจญภัยผู้หิวโหย มีห้องน้ำให้อาบและเปลี่ยนชุดบริการ

สริรวมค่าใช้จ่าย: ค่าล่องแก่ง คนละ 650 บาท และค่าถ่ายรูป 4 คน เหมา 700 บาท แนะนำว่าให้จ้างไปเถอะ คุ้มค่ามากกับถ่ายละรูปที่ได้มา

หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ขับรถมุ่งหน้าไป อช ภูหินร่องกล้า เพราะวันนี้เราจะไปพักกันที่นั่น แต่พอเข้าไปในตัวเมืองเพื่อนที่ตกน้ำเกิดปวดหูร้าวไปถึงกระบอกตา เลยตัดสินใจแวะโรงพยาบาลในเมืองก่อนเพื่อตรวจเช็ค

ปรากฎว่ามีใบไม้และเศษผมเข้าไปติดอยู่ในหู คาดว่าด้วยจังหวะตกคงปะทะกับน้ำแรงมาก พยาบาลช่วยคีบออกและจ่ายยาแก้อักเสบให้

จริงๆมานั่งคิดว่าล่องแก่งอันตรายไหม ต้องตอบตรงๆว่าอันตรายพอสมควร มีสิทธิ์ตกลงไปอวัยวะสำคัญกระแทกหินได้ คนที่จะไปควรฟิตร่างกายไปให้ดี มีทักษะด้านกีฬาพอสมควร และควรบอกพี่เจ้าหน้าที่ให้เพลาๆหน่อย ไม่ต้องแกล้งมาก (กลุ่มเราดันไปบอกเค้าให้จัดมาเต็มที่ พี่เค้าเลยจัดให้จริงๆ)

เสร็จจากโรงพยาบาลก็มุ่งหน้าเข้าที่พักที่ อช ภูหินร่องกล้า พระอาทิตย์ตกไปแล้ว

IMG_4809

บ้านพักที่จองไว้ มีทั้งหมด 2 ห้อง นอนได้ห้องละ 3 คน (เพราะตอนแรกจะมา 5 คน แต่เพื่อนอีกคนดันติดธุระ) แต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว กว้างขวางมาก

ห้องผู้หญิง

DSC09894

ฝั่งผู้ชาย ใหญ่ไม่แพ้กัน

DSC09895

มีห้องนั่งเล่นเล็กๆตรงกลาง ไว้วางของกินของใช้ มีน้ำดื่มให้ฟรีด้วย

DSC09896

เก็บของเสร็จแล้วออกไปกินข้าวก่อนเลย หิวไม่ไหวแล้ว

ร้านอาหารในบริเวณที่พักจะมีอยู่ 2 ร้าน ชื่อร้านดวงใจ(ถูกกว่า เปิดเช้ากว่า ปิดดึกกว่า) กับร้านรังทอง(อร่อยกว่า) วันนี้พวกเราลองร้านดวงใจกัน

DSC09899

อืม หิวเลย จริงๆมีไก่ทอดเกลืออีกเมนู แต่อร่อยจัดเลยลืมถ่าย

DSC09905-vert

ราคาไม่แพงมากสำหรับอาหารบนดอย หมดไปคนละร้อยกว่าบาท (ไปกินรังทองมีสองร้อยกว่า) อาหารพอใช้

กลับมาถึงบ้านพัก ยังไม่นอนง่ายๆ เหล่าตากล้องของเรายังท้าลมหนาวถ่ายทางช้างเผือกต่อไป

DSC09921

ดวงจันทร์ยังกะหลอดไฟนีออน มันคงเห็นหรอกพ่อคู้ณณณณ

DSC09918

มาดูภาพตากล้องกันดีกว่าว่าได้อะไรบ้าง เลนส์มันเมพจริง ส่องแทบจะเห็นหลุมบนพระจันทร์

10347098_927247380636165_166078885586056821_n

เข้าบ้านหลบลมหนาว จริงๆไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้ ดีที่ว่าพกเสื้อกันหนาวและกางเกงขายาวมาด้วย (กะเอากลับสิงคโปร์) ไม่งั้นทรมานมากแน่ๆ

เผอิญวันนี้เป็นวันเกิดฉัน คุณสำลีเลยทำเซอร์ไพร์สตั้งแต่เช้า แต่ได้มานอนกอดจริงๆก็ตอนนี้แหละ

IMG_4815

จบวันนี้แต่เพียงเท่านี้ ต้องรีบนอนเก็บแรงไว้สู้ post หน้า ขอบอกว่าทรหดที่สุดตั้งแต่เคยเที่ยวป่ามา ต้องติดตาม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*