Hong Kong – Macau ตอนที่ 4 : ตะลุยเกาะฮ่องกง งงๆก็ไปได้

2 post ที่ผ่านมาฉันได้พาเพื่อนๆไปเยือนฝั่งเกาลูนและเขตนิวเทอร์ริทอรี่ส์ post นี้จะพาเพื่อนๆไปตะลุยฝั่งฮ่องกง ครบเครื่องทั้งเที่ยว กิน หลง ที่สำคัญคือเดินจนรองเท้าแทบขาดกันเลยทีเดียว

แผนการท่องเที่ยวคร่าวๆของวันที่ 3 (12 ธันวา 2556)

08:30  Breakfast @ Tao Heung Restaurant
10:00   เที่ยวชมตึกดังย่าน Central
11:00   นั่งรถรางชมเมืองไปลง Causeway Bay
12:00   Lunch @ Keung Kee Restaurant
13:30   Repulse Bay
15:00   Stanley Market
16:40   The Peak & Peak Tower
22:00  Dinner @ Sushi One

วันนี้เป็นวันพักหน่อย (หรอ? เห็นตารางแล้วไม่นะ) เลยจัดให้ตื่น 7 โมงแล้วออกจากโรงแรม 8 โมง (จริงๆก็เหมือนทุกวันเพราะวันอื่นตื่นไม่ทัน 555)

เริ่มกันด้วยการหาอะไรลงท้อง ตามรีวิวไปกินติ่มซำกันในย่าน Tsim Sha Tsui ที่ร้าน Tao Heung Restaurant ค่ะ (เพิ่งมารู้ทีหลังว่าร้านที่ไปกินไม่ใช่ Tao Heung ร้านจริงย้ายไปที่ Star mansion, Minden Row ตรงข้ามถนน K11 ส่วนร้านที่ริวิวอยู่นี่ ฉันก็ไม่รู้ว่าร้านอะไรเหมือนกัน 555)

ร้านที่ว่าอยู่ที่ชั้น 2 ของ Carnavon Plaza จริงๆนึกว่าจะหาง่าย แต่ก็เดินงมอยู่นานพอสมควร จะหาสาวๆฮ่องกงถามก็ไม่มี ก็เลยถามคุณป้าที่แจกหนังสือพิมพ์อยู่ละกัน ดังคาด ป้าตอบเป็นไฟกลับมาเป็นภาษาจีน ไม่รู้ว่าพูดอะไร แต่ด้วยความหิวเลยสู้ตาย ออกท่าใบ้พร้อมพูดภาษาอังกฤษ ป้าก็พูดภาษาจีนกลับมา เรียกคนโน่นคนนี้มาช่วย (ซึ่งพูดอังกฤษไม่ได้ กลายเป็นถูกรุมด้วยกลุ่มป้าฮ่องกง คงตลกน่าดู) แต่ก็ได้ผล ป้าคนหนึ่งพาเราไปที่ร้านอาหาร (ร้านอื่น ไม่ใช่ร้านที่จะไป มิน่าก็ว่าว่าทำไมคุยกันรู้เรื่องๆทั้งๆที่คนละภาษา 55) กดลิฟต์ให้เสร็จสรรพเลย ให้ใบปลิวร้านมาด้วย อ๋อ แกแจกใบปลิกโฆษณาอยู่นี่เอง

ขึ้นลิฟต์ทางขวามือในห้างนี่ไปโลด

1391852651-154DSC0531-o

ถึงแล้ว มีแต่โต๊ะจีน คนไม่ค่อยเยอะ สงสัยไม่ค่อยขึ้นชื่อแฮะ (ป้าเสื้อสีแดงทางซ้ายที่คนที่พามา ชี้ใหญ่เลย)

1391852700-155DSC0529-o

ใบที่เอาไว้สั่งเป็นกึ่งๆเมนู ใช้กระดาษหรูมาก มีแผ่นพับมาอีกใบ ติ๊กได้เลยว่าจะเอาอะไร สังเกตข้างบนแผ่นพับจะมีราคาต่อเข่งของแต่ละช่วงเวลา 8.00-11.30 น. จะถูกสุด โอ๊ย ดีใจ

1391852738-156DSC0437-o

พวกเรางมกันอยู่ซักครู่ พยายามเดาว่าอะไรคืออะไร (ขนาดมีภาษาอังกฤษกำกับ) มีพนักงาน(ที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้)มาแนะนำว่ากินอันนั้น อันนี้ไหม ก็ได้สั่งกันเรียบร้อย

เมนูแรก ฮะเก๋ากุ้ง 24.9 HKD

จากความตั้งใจเดิมอยากกินขนมจีบกุ้ง เปิดรูปให้พนักงานดู นางก็ติ๊กในแผ่นพับให้ว่า Chinese Mushrooms Tender SiuMai แต่อ่านภาษาอังกฤษแล้วไม่มั่นใจเลยเปลี่ยนเป็น PFresh Shrimp Dumping ไม่รู้ว่าอะไร อย่างน้อยมี Shrimp เลยอุ่นใจ กลับกลายมาเป็นฮะเก๋าเสียนี่ ฮา

1391852779-157DSC0530-o

2.5/5 ดาว

รสชาติพอๆกับกินที่ไทยหรือด้อยกว่า กุ้งให้มาแค่ตัวเดียว เทียบกับราคาแล้วแพงมากๆ ไม่ฟินอย่างแรง

ต่อไปแนะนำโดยพนักงานของร้าน เรียกว่าอะไรจำไม่ได้จริงๆเลยจำราคาไม่ได้ด้วย เป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดข้างในคิดว่าห่อผักกับก๋วยเตี๋ยวหลอดทอดกรอบๆ  (ถ้าใครทราบช่วยบอกที) ราดน้ำหวานๆเค็มๆ อร่อยทีเดียว

1391852802-158DSC0531-o

เอาไปเลย 4.5/5 ดาว

อร่อยที่สุดในมื้อนี้แล้ว มันนุ่มๆกรอบๆบอกไม่ถูก แต่ราดน้ำมาน้อยเกินไป วิดกันแทบแย่

เข่งต่อไป ซาลาเปาไส้ไหล Oat and Custard Cream Bun 14.9 HKD

1391852824-159DSC0530-o

จริงๆอยากสั่งซาลาเปาไส้ครีม แต่ออกมาเป็นไส้ไหลซะงั้น แบะออกมาหาทีรองแทบไม่ทัน ไหลเยิ้มเชียว

1391852841-160DSC0530-o

ให้ 2.5/5 ดาวค่ะ

ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ คำแรกก็อร่อยดี แต่คำถัดๆไปเริ่มเลี่ยน คิดว่าเป็นเพราะไม่ได้ปลื้มไส้ไหลไข่เค็มแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แป้งก็ไม่ได้นุ่มนวลชวนฝันนัก คิดว่าแถวเยาวราชอร่อยกว่าเยอะ ต้องรีบกินตอนมันมาร้อนๆเพราะถ้าปล่อยไว้แป้งจะแข็ง ไม่อร่อย

ต่อด้วยมินิ Fresh Egg Tart 14.9 HKD

1391852864-161DSC0529-o

ให้ 3/5 ดาวค่ะ

อันนี้สั่งเพราะว่าอยากลองทาร์ตไข่ฮ่องกงมากๆ  จะได้ไปเปรียบเทียบกับมาเก๊าได้ถูก รู้สึกไส้มันเลี่ยนๆ แต่ก็ยังถูกปากกว่าซาลาเปาเมื่อกี้นิดนึง

เมนูสุดท้าย ตีนไก่ผัดซอส XO Chicken Paw with XO Sauce 14.9 HKD รู้สึกเมนูนี้กำลังมีโปรโมชั่นลดไป 2 HKD

1391852889-162DSC0530-o

เอาไป 1/5 ดาวถ้วน

ที่สั่งเพราะมันโฆษณาเยอะ แล้วตาเห็นแค่ chicken ใจก็คิดไปถึงไก่เป็นชิ้นๆ ประกอบกับอยากรู้จัดซอส XO ของฮ่องกงด้วยว่ามันคืออะไร พอเห็นเป็นตีนไก่ก็ค่อนข้างผิดหวัง (ก็เค้าเขียนว่า Paw แต่ไม่รู้เอง) มันเลี่ยนมาก ฝืนใจกินคนละชิ้นแล้วต้องปล่อยทิ้งไว้ ปลอบใจตัวเองว่าอย่างน้อยมันก็ลดนะ 555 อ่อ แล้วซอส XO มันก็คือซอสเปรี้ยวหวานบ้านเรานี่แล

สรุปคะแนนมื้อนี้ 3.3/5 ดาว แบ่งเป็น

ความอร่อย           2.7/5         (ค่อนข้างผิดหวังกับรสชาติติ่มซำโดยรวม พอดีว่าฝันมาเยอะ)
สถานที่                    4/5           (กว้างและสะอาดดีใช้ได้ค่ะ แต่ห้องน้ำแอบสกปรกนิดนุง)
การบริการ             3.5/5         (พนักงานพยายามสื่อสารด้วย คิดว่าที่นี่หน้าตารับแขกที่สุดแล้วนะ)
ราคา                        3/5           (แพง บวกค่าน้ำชากับค่าบริการแล้วมื้อนี้อยู่ที่ 117 HKD รู้สึกว่ากินที่ไทยจะถูกและอร่อยกว่านี้)

ต่อไปจะข้ามไปฝั่งฮ่องกงด้วยเรือ Star Ferry กัน จากร้านอาหาร พวกเราก็พากันเดินไปที่ท่าเรือ

ตรงบริเวณท่าเรือมีรถ Big Bus Tour จอดอยู่ เป็นรถ 2 ชั้นแบบเปิดประทุน พาเที่ยวเกาะฮ่องกงตามสถานที่สำคัญต่างๆ ราคาค่อนข้างแพงเอาเรื่อง 24 ชั่วโมงจะอยู่ที่ 49$ หรือประมาณ 1,500 บาท เลยถอดใจ ขึ้นรถราง รถตู้ รถเมล์ แล้วเสี่ยงหลงทางเอาดีกว่า มันส์กว่า และได้เห็นวิถีชีวิตหลากหลาย

1391853100-163DSC0535-o

ไปถึงท่าเรือ เห็นป้ายแล้วคาดว่าเรือน่าจะมี 2 ชั้น Lower Deck จะเป็นชั้นล่าง (มั้ง) เพราะว่าขึ้น Lower Deck ทั้งขาไปขากลับ เนื่องจากพวกเราจะข้ามไปดูตึกดังในย่าน Central เลยไปตามไปที่เขียนว่า To Central ใช้บัตร Octopus มหัศจรรย์ติ๊ดเข้าไปได้เลย ค่าเรือน่าจะอยู่ที่ 3.5 HKD อาจจะใช้เวลานานกว่า แต่ถูกกว่าไปด้วยรถไฟฟ้าครึ่งหนึ่งแล้ววิวยังสวยกว่าด้วย

1391853123-164DSC0533-o

ที่นั่งรอเรือ ดูเก่าๆชอบกล แต่คนฮ่องกงใช้บริการเจ้าเรือนี่ค่อนข้างเยอะ

1391853158-165DSC0533-o

นั่งรอไม่นานเรือก็ออก มองออกไปเห็นเรือแบบเดียวกัน อ่อ มี  2 ชั้นจริงๆด้วย ห้ามลืมอุปกรณ์กันหนาวไปเด็ดขาด เพราะลมจะพัดกันแบบไม่ลืมหูลืมตา

1391853175-166DSC0533-o

เห็นตึกฝั่งฮ่องกงเรียงรายมาแต่ไกล ขวาสุดคือ IFC2 ตึกที่สุดที่สูงในเกาะฮ่องกง ท่าเรือก็จะอยู่ละแวกนั้น

1391853188-167DSC0534-o

ออกมาที่ Pier 7 ต้องจำไว้ให้แม่นๆ เดี๋ยวกลับผิด

1391853206-168DSC0446-o

ออกมาก็มายืนเอ๋อกัน 2 คน ว่าจะไปยังไงต่อ พอดีเห็นมีสะพานอันเบ่อเริ้มที่เขียนว่า City Hall, Connaught Road Central, MTR อยู่ข้างหน้าก็ขึ้นเลย

1391853219-169DSC0535-o

เดินผ่าน IFC Mall ก็เจอ Apple Store ที่ชอบเห็นตามรีวิวต่างๆ เยสสส มาถูกทางแล้ว แหม จะอลังไปไหนกัน

1391853234-170DSC0448-o

ซักพักก็หาทางทะลุผ่าน IFC Mall ลงมาได้ ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน คือมั่วมาก รู้แต่ว่าต้องไปที่ถนนที่มีรถรางวิ่งผ่าน เพื่อไปดูตึก HSBC ให้ได้

ชอบตรงที่ตามถนนจะมีเขียนบอกให้ Look Right/Look Left ให้ระวังว่ารถจะมาทางไหนในกรณีของถนนตามตรอกเล็กๆ ถนนใหญ่จะมีไฟและเสียงให้สัญญาณการข้าม การข้ามถนนที่นี่ต้องระวังมากๆ เพราะประเทศเค้ามีรถไม่มากเท่ากรุงเทพ จะเห็นแต่รถแพงๆกับแท็กซี่ เลยวิ่งกันเร็วฉิว ชนเป็นชน อะไรแบบนี้ ดังนั้นเวลาข้ามถนนเล็กๆที่ไม่มีสัญญาณไฟแล้วยังเชื่อมกันเป็นหลายๆแยก (ดังเช่นหน้าโรงแรม Hop Inn) นี่จะรู้สึกประหนึ่งชีวิตตกอยู่ในอันตรายเลยทีเดียว

1391853257-171DSC0537-o

เดินไปตามแนวรถรางเรื่อยๆ ก็เจอพอดีค่ะ ตึก HSBC ตึกที่ฮวงจุ้ยดีที่สุดในโลก (เค้าว่ากันงี้ แต่เราไม่รู้ดูยังไง)

1391853279-172DSC0453-o

จริงๆข้างหน้าชั้นล่างสุดจะมีสิงโตนอนอยู่ พอดีติดสถานีรถรางเลยมองไม่เห็น เค้าว่ากันว่าให้ไปลูบเท้าแล้วจะโชคดี แต่วันนั้นมีคนกำลังทำความสะอาดอยู่พอดี อดปาย

ข้างบนสุดสังเกตว่าจะมีปืนใหญ่ยืนขึ้นมาด้วย เอาไว้ยิงแก้เคล็ดไปที่ตึกดาบที่อยู่บริเวณนั้น ประมาณว่าอย่ามาทำให้ฮวงจุ้ยชั้นเสียนะยะ

ตึกดาบ ที่เป็นเหตุให้แต่ละตึกหาปืนมายิงแก้เคล็ดกันจ้าละหวั่น ตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกลค่ะ ช่างคิดออกแบบได้เนอะ เด่นซะ

1391853299-173DSC0458-o

2 ตึกนี่ก็ขอยิงกับเค้าด้วย ถึงปืนจะอันน้อยแต่ขอให้ได้ยิงก็ยังดี

1391853348-174DSC0537-o

จากตึก HSBC มองไปเห็นตึกแฝด Lippo ด้วย คิดถึงโคอาล่ามาร์ชกันทีเดียว

1391853370-175DSC0457-o

ที่สวนสาธารณะตรงข้ามกับตึก HSBC มีรูปปั้นของนายกฮ่องกงคนแรก  (หรือเปล่า? เริ่มมั่ว ฮา) ยืนอยู่อย่างเท่

1391853403-176DSC0537-o

ถ่ายรูปกันจนหน่ำใจก็ขึ้นรถรางที่สถานีข้างหน้าตึก HSBC นั่นแหละ นั่นไงมาแล้ว คันนี้เลย เขียนอยู่ข้างหน้าว่าจะไป Causeway Bay

อันนี้ต้องระวังเล็กน้อย ห้ามชะโงกหน้าออกจากสถานีด้วยความตื่นเต้นแบบฉันเด็ดขาด เพราะรถรางจะจอดเทียบแบบชิดมากๆ เกือบโดนสอยไปแย้ว T^T สังเกตว่าที่นี่เค้าขับรถกันค่อนข้างโปร เวลารถสวนกันนี่ห่างไม่ถึงนิ้ว เสียวแทน

1391853427-177DSC0539-o

ตอนขึ้นให้ขึ้นข้างหลัง ยังไม่ต้องจ่ายเงิน ตอนลงให้ไปลงข้างหน้าแล้วติ๊ดบัตร Octopus เพื่อจ่ายค่าโดยสารประมาณ 3 HKD ถูกชะมัด

ปีนขึ้นบันไดชั้น 2 โลด พบว่าคนค่อนข้างเยอะทีเดียว โชคดีที่มีคนลุกพอดี เย้

ภาพนี้เป็นบรรยากาศในรถราง

1391853461-178DSC0459-o

วิวจากกระจกหน้าต่างรถรางชั้น 2

1391853505-179DSC0540-o

นั่งกินลมชมวิวไม่นานก็มาถึง Causeway Bay เลยแวะห้าง SOGO ซะเลย แวะเข้าห้องน้ำอย่างเดียว งบไม่พอช็อปปิ้ง สังเกตราคาแล้ว  เสื้อผ้าก็ไม่ได้ถูกกว่าเมืองไทยมาก แต่อย่างอื่นไม่รู้ แหะๆ

สรุปคะแนน เที่ยวชมตึกดังย่านฮ่องกง + นั่งรถรางชมเมือง

3.5/5 ดาว

ให้อารมณ์สบายๆดี ตึกต่างๆก็สวยแปลกตาและมีประวัติให้ศึกษา แต่ถ้าไม่ศึกษามาก็จะไม่มีอะไรให้ถ่าย คืองง ตึกเยอะไปหมด รถรางเป็น transportation ที่เจ๋งดี ถูก ประหยัด classic แต่มีแค่ไม่กี่เส้นทาง ถ้ามีเวลาควรจะลองดู แอบหักคะแนนหน่อยตรงที่คนสูบบุหรี่เยอะ มีอยู่ทุกมุมตึก เดินไปเดินมายังสูบ สูบกันทั้งผู้ชายผู้หญิง เดินท่องเที่ยวในเมืองจะเลี่ยงแทบไม่ได้ ได้กลิ่นทั้งวันจนเวียนหัว ที่เมื่อวานแทบไม่เห็นเลยคงเพราะอยู่ใน Disneyland

ออกมาหาหมูแผ่นอันโด่งดังกินที่ร้าน Bee Cheng Hiang ร้านนี้หาง่ายมว๊าก ตั้งอยู่ตรงข้ามห้าม SOGO ในรูปคือป้ายสีเหลืองๆทางขวา

1391853951-180DSC0461-o

ละลานตา ทั้งหมูทั้งเนื้อ เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว

1391853967-181DSC0542-o

ตัดสินใจซื้อ sliced pork มา 1 แผ่น 25 HKD หันมาแล้วเหลือแค่นี้เอง 55

1391853992-182DSC0543-o

เอาไปเลย 4/5 ดาว

อร่อยสมคำร่ำลือ ไม่เหนียวและรสชาติกลมกล่อมมาก อย่างอื่นไม่ได้ชิมแต่คาดว่าคงไม่แพ้กัน ตั้งใจว่าจะซื้อไปฝากคนที่บ้านเลยทีเดียว

ข้างๆร้านถัดไปทางซ้ายมือมีร้านน้ำมะม่วงปั่นอยู่ ร้านนี้อร่อยมาก ฟันเฟิร์ม แต่จังหวะนั้นยังไม่ได้ซื้อเพราะกำลังฟินกับหมูแผ่นอยู่

เที่ยงตรงก็เดินไปยังร้านเป้าหมาย มื้อนี้จะหนักโปรตีนหน่อย โดยเราจะพาไปกินหมูแดงและห่านย่างกันที่ Keung Kee Restaurant เดินจาก Causeway Bay ย้อนมาทาง Wan Chai เดินงมไม่นานก็หาเจอ โอ้ว นายมันไม่ธรรมดา ได้รับรางวัลมิชลินการันตีความอร่อยกับเค้าด้วย สังเกตว่าร้านแปะไว้ตรงทางเข้า ตัวขาวๆ (จริงๆฉันมารู้ภายหลังว่ารางวัลนี้ได้ยากยิ่งนัก การันตีว่าอร่อยได้ในระดับหนึ่ง ว่าแต่ยางรถยนต์มาเกี่ยวอะไรกับอาหารเนี่ย)

1391854048-183DSC0465-o

เค้าว่ากันว่าหมูแดงอร่อยก็จำใจสั่งหมูแดงราดข้าว Barbequed Pork with Rice ในราคา 44 HKD มา ปกติฉันเป็นคนไม่ชอบหมูแดง จินตนาการหมูแดงบ้านเรา แห้งๆ แข็งๆ ไปกินบะหมี่ทีไรเลยลืมว่าน้องพุงมันโตขนาดไหน สั่งหมูกรอบทู้กกกที

1391854066-184DSC0544-o

อยากให้มากกว่า 5 ดาว สำหรับเมนูนี้ ความฟินน้องๆดูพลุที่ Disneyland เลยทีเดียว

คือมันนุ่มอร่อยลงตัว กินแล้วฝันไปเลย หวานนิดเค็มหน่อยกำลังดี  เดี๋ยวนี้เวลาไปกินหมูแดงที่ไหนยังคิดถึงจังหวะที่กัดคำแรกเข้าไปอยู่เลย แบบลืมไม่ลง

เมนูที่สอง สั่งห่านย่างราดข้าว Roasted Goose with Rice ในราคา 48 HKD มา อยากรู้มานานแล้ว ว่าห่านกับเป็ดจะต่างกันยังไง

1391854088-185DSC0544-o

จานนี้เอาไปแค่ 3/5 ดาว

หลักๆคาดหวังกับจานนี้นะ แต่มันที่หนังเยอะมาก กินแล้วเลี่ยน คาวด้วย ได้น้ำจิ้มบ๊วยมาช่วยหน่อยแต่ก็ยังรู้สึกคาวอยู่ มันไม่นุ่มลื่นเหมือนหมูแดงรู้สึกฝืดๆคอชอบกล อ๋อ ลืมบอกไปว่าสรุปฉันก็ไม่รู้ว่าห่านกับเป็ดต่างกันยังไง อนาถใจลิ้นตัวเองยิ่งนัก

ยังมีเมนูอื่นๆที่น่ากินอีกเยอะ เหลือบไปมองโต๊ะข้างๆที่มาเป็นคู่ สั่งหมูแดงหมูกรอบ ไข่ดาว 2 ฟองมาในชามเดียว ตอนแรกก็คิดว่า โห ผู้ชายฮ่องกงนี่กินเยอะจัง ไหงได้ จานนี้ของผู้หญิง ผู้ชายก็ไม่ได้ต่างกัน อึ้งไปเลย แล้วไหงตัวไม่ต่างจากฉันเลย 555 สงสัยเดินเยอะ

พอดีว่าปวดห้องน้ำอีกแล้วเลยถามหาห้องน้ำกับพนักงาน ที่นี่เค้าจะให้เราไปหยิบกุญแจห้องน้ำ แล้วไปไขเอาหลังร้าน กันคนที่ไม่ใช่ลูกค้ามาเข้า เออเนอะ แปลกดีอ่ะ

สรุปคะแนนมื้อนี้ 4.25/5 ดาว แบ่งเป็น

ความอร่อย             4/5         (หมูแดงขึ้นหิ้งไปเลยค่ะ อิอิ)
สถานที่                    4/5         (สะอาดใช้ได้ค่ะ แต่ห้องน้ำก็โอเคนะ เป็นส้วมซึมแต่ไม่ได้สกปรกอะไร)
การบริการ             4/5         (พนักงานแทบไม่มีบทบาทเพราะเมนูอ่านง่าย ดูแลตัวเองได้ ฮา แต่ตอนไปถามหาห้องน้ำ แกฟังคำว่า toilet ออก แถมให้ความร่วมมือดี)
ราคา                        5/5         (คิดว่าถูกและอร่อยคุ้มราคา ตอนนี้เริ่มชินกับการกินข้าวมื้อล่ะ 200 บาท ชอบตรงที่นี่ไม่มีการบังคับค่าน้ำชา ไม่มีเซอร์วิสชาร์ต  จ่ายไป 92 HKD ตามราคาที่สั่งไปเลย)

แนะนำให้มาโดน บอกกันตรงๆว่ายอดเยี่ยมกระเทียมดองไปเลย

จุดมุ่งหมายต่อไปคือการไป Repulse Bay โดยพวกเราจะไปกันด้วยรถมินิบัสสาย 40 จากร้านอาหาร ต้องเดินย้อนไปทาง Causeway Bay เพื่อไปที่ซอย Tung Lung อันเป็นท่ารถของมินิบัสนี้

ท่ารถหาไม่ยาก แค่เหลือบมองทุกซอยที่ข้ามผ่าน เห็นรถลักษณะนี้จอดอยู่ ให้มั่นใจได้เลยว่าใช่แล้ว ตรวจเช็คอีกสักนิดก็ได้ค่ะว่าป้ายมันเขียนไว้ว่า 40 หรือเปล่า

1391854355-186DSC0545-o

รอซักพักก็ได้ขึ้นรถ โดยใช้บัตร Octopus จ่ายได้ ราคาตามระยะทาง ไปถึง Repulse Bay น่าจะประมาณ 9 HKD

รถมินิบัสจะถูกจำกัดความเร็วไว้ไม่เกิน 80 km/hr มีป้ายแสดงความเร็วให้ผู้โดยสารดูไว้ชัดเจน

1391854393-187DSC0467-o

ด้วยความเอ๋อ นึกว่ารถต้องจอดตามป้าย หรือต้องตะโกนบอกคนขับเหมือนรถตู้ไทย พอรถผ่านหาดที่ลักษณะคลับคล้ายคลับคลากับ Causeway Bay ที่เคยเห็นในหนังสือ ไหงไม่เห็นจะหยุดแล้วยังไม่มีใครพูดอะไรเลย และแล้วก็ผ่านหาดนั้นไป งง

ลองมองไปรอบๆ อัยยะ เจอตัวการที่ทำให้ไม่ได้ลงแว้ว กริ่งอยู่นี่เอง ในใจเลยคิดว่า ไป Stanley Market ก่อนก็ได้ เดี๋ยวค่อยนั่งรถย้อนกลับมา ชิชะ

1391854425-188DSC0546-o

ระหว่างนั้นมีคนลงตามคอนโด หมู่บ้าน เป็นระยะ OMG เพิ่งเห็นเทาว์เฮ้าส์ในฮ่องกงครั้งแรก ปกติจะเห็นตึกอย่างน้อย 5 ชั้นขึ้นไป คนพวกนี้ต้องรวยมหาศาลแน่ๆ

มีคนตะโกนบอกคนขับรถให้หยุดเป็นภาษาจีนด้วย ใช้ระบบเดียวกับบ้านเราเลย คราวหน้าจะท่องภาษาจีนกลางคำว่า หยู้ดดดดดดดดดดด ไป

พอถึง Stanley Plaza รถวนเข้าไปจอด ทำท่าเหมือนสุดสายจะเลี้ยวกลับ แล้วคนลงเป็นจำนวนมาก (น่าจะหมดรถ) ฉันเลยหันไปพยักหน้ากับคุณสำลีว่า ลงเหอะ ดูท่าจะสุดที่นี่ แต่ไหนอ่ะ Stanley Market

ลงมายืนเอ๋อกันอยู่ 2 คน ไอมินิบัสคันนั้น มันวนวงเวียนแล้วหันหัวไปต่อทางเดิม ไม่ได้เลี้ยวกลับ เอิ่ม  =.=

มันคือที่แห่งนี้ ตกแต่งค่อนข้างโมเดิร์น คนลงเยอะๆ คุณห้ามลงเด็ดขาดนะคะ ยังไม่ถึง ฉันแค่ไม่รู้ T^T

1391854466-189DSC0547-o

ออกมาดูหนทางข้างหน้า ตรูอยู่ส่วนไหนของโลกเนี่ยยยยย (Stanley Plaza งาย)

1391854501-190DSC0547-o

ระหว่างที่ฉันกำลังไว้อาลัยให้กับความเซ่อของตัวเองและเตรียมจะเรียกแท็กซี่ คุณสำลีหันไปค้น iPad กุกกัก จิ้มๆ (จาโพสต์ Facebook ใช่ม๊ายว่าตรูพาหลง) แล้วหันมาบอกว่า Stanley Market อยู่ไม่ไกลนะ เดินไปกันเถอะ O.O

คุณสำลีสุดไฮเทคลง application ที่ชื่อว่า Sygic มากับ iPad ของนางด้วย แล้วปักหมุดสถานที่ที่จะไปกันในฮ่องกงมาก่อน (แล้วทำไมไม่เอามาใช้แต่ทีแรก) appplication นี้ไม่ต้องใช้ Internet ก็สามารถทำงานได้ ลองโหลดติดเครื่องไปเผื่อจะช่วยชีวิตคุณได้

เดินไปแค่ 500 เมตรก็ถึง Stanley Market ในที่สุด ส่วนตัวตรงที่เป็นตลาดคิดว่าไม่มีอะไรนะ เล็กกว่าจัตุจักรประมาณ 500 เท่า เลยเดินผ่านๆไปหาทะเลเลย

ชายหาดที่นี่เล่นไม่ได้ เนื่องจากมีโขดหินเยอะ เค้าเลยสร้างเป็นที่หย่อนใจ มีร้านค้ามากมาย นั่งกินไปดูทะเลไป  มีทางเดินชมทะเลสวยๆ ไปนั่งทอดอารมณ์บนขอบระเบียง(ไม่รู้จะเรียกอะไรดี) ก็ได้

1391854559-191DSC0549-o

ยืนถ่ายรูปทะเลมาได้ช็อตหนึ่ง

1391854577-DSC04708-o

สรุปคะแนน Stanley Market

สำหรับเราให้ 1/5 ดาว

เพราะไม่มีอะไรทำเลยจริงๆ ของขายมีน้อยมาก ชายหาดก็เหมาะกับการไปนั่งกินชิลๆอย่างเดียว ไร้กิจกรรมใดๆโดยสิ้นเชิง

มองหน้ากันแล้วตัดสินใจไปต่อที่ Repulse Bay กันเลย รถเมล์ที่ไปได้คือสาย 6, 6A, 6X, 66, 260

คันนี้แหละที่พวกเรานั่งไป อันนี้ถ่ายตอนมาถึง Repulse Bay แล้ว เป็นรถแอร์สองชั้นเหมือนรถทัวร์มีระดับบ้านเรา ใหม่ สะอาด หรู

1391854771-192DSC0474-o

ขึ้นมาได้ ติ๊ดบัตร Octopus จ่ายค่ารถ 6 HKD ก็รีบขึ้นไปชั้น 2 เลย ลักษณะข้างในจะเป็นแบบนี้ ที่ชอบที่สุดคงจะเป็นป้ายแสดงตัวอักษรส้มๆวิ่งข้างหน้าจะที่บอกสถานที่ต่อไปที่รถจะหยุด

1391854800-193DSC0550-o

พอถึง Repulse Bay Village ฉันกลัวว่าไม่ได้ลงเหมือนคราวที่แล้ว ก็รีบกดกริ่งวิ่งโร่ลงไป อันนี้ขอเตือนให้ระวังเวลาเคลื่อนไหวใน public transportation ทุกประเภทของฮ่องกง  เพราะขับกันกระโชกโฮกฮากเหลือเกิน หน้าฉันกระแทกกับตัวรถไปนับครั้งไม่ถ้วน ดั้งยุบเลย (ได้ข่าวว่าไม่มีอยู่แล้ว ฮา) คนขับเหลือบมามองเพราะเสียงหน้าฉันกระแทกตัวรถ หันมาส่ายหน้า(ทำหน้าดุเชียว ตรูนึกว่าจะด่าที่เกือบทำรถบุบ)แล้วพูดว่า  Repulse Bay Beach แล้วรีบหันกลับไป ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น น่ารักง่ะ คือที่นี่มีกฎห้ามคนขับรถพูดกับพูดโดยสาร แต่เค้าเดาได้ว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวที่จะมา Repulse Bay เลยบอกว่าให้ลงป้ายหน้า อย่าเซ่อลงป้ายนี้ ขอบคุณคุณลุงที่ซู้ดเลย

1391854830-194DSC0550-o

ลงจากรถก็เจอตึกที่มีช่องให้มังกรลอด (ไม่รู้เรียกว่าอะไร) เดี๋ยวที่เมืองไทยมีตึกลักษณะนี้ค่อนข้างเยอะ แต่ช่องจะไม่ใหญ่โดดเด่นถึงขนาดนี้ ตึกนี้น่าจะเป็นที่อยู่อาศัยมากกว่าออฟฟิศ

1391854849-195DSC0551-o

เดินลงบันไดไปที่หาด หาดที่นี่สวยไม่เท่าของบ้านเรา ทรายค่อนข้างหยาบ

1391854864-196DSC0551-o

หันไปข้างหลังก็มีตึกเต็มไปหมด คุณสำลีไปทำอะไรตรงนั้น ออกมาจากเฟรมนะ

1391854880-197DSC0552-o

วันนั้นมีทัวร์จีนมาลงเป็นระยะแต่ก็ไม่เยอะ ทำให้เดินถ่ายรูปได้สบายใจ อากาศตอนนั้น 19 องศา (มีป้ายบอกไว้) ประกอบกับลมพัดแรง แต่มีคนลงไปว่ายน้ำ -0-  แอบช็อค นางต้องเป็นนักกีฬาทีมชาติที่ขาดซ้อมไม่ได้แน่ๆ

1391854896-198DSC0552-o

เพลิดเพลินกับชายหาดและลมหนาวสักพักก็พากันเดินไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมกัน

รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมใหญ่พอสมควร เทียบกับคนที่กำลังจุดธูปไหว้ แต่โดยรวมแล้ววัดค่อนข้างเล็ก เราเห็นจากรูปในกระทู้รีวิวแล้วจินตนาการไว้ใหญ่โตอลังการกว่านี้มาก คนมาวัดประปราย มีทั้งคนไทยและคนจีนผสมกันไป

1391854949-199DSC0481-o

มาถึงสะพานอันโด่งดัง ฉันแนะนำคุณสำลีอย่างภูมิใจในความรู้ที่ศึกษามาว่าข้ามสะพานนี้แล้วจะมีอายุเพิ่มขึ้นอีก 1 ปี แต่ห้ามข้ามกลับ คุณสำลีพยักหน้าแล้วถามต่อไปว่า แล้วต้องข้ามฝั่งไหนล่ะเธอ เออเนอะ งงเลย

1391854989-200DSC0553-o

ยืน monitor กันอยู่สักพักว่าเค้าข้ามฝั่งไหนกัน เห็นข้ามทั้งสองฝั่งเลยเริ่มเครียด เดินวนทำใจกันก่อน กลัวข้ามผิดฝั่งแล้วอายุลด 555 สุดท้ายเลยตัดสินใจข้ามฝั่งขวาของสะพาน (ไม่รู้ถูกหรือผิด ใครทราบบอกหน่อย T^T

จริงๆตอนกลับมาทำรีวิวเพิ่งรู้ว่าขอเรื่องความรักได้ด้วย ตอนนั้นไม่รู้อ่ะ แง

สรุปคะแนน Repulse Bay + วัดเจ้าแม่กวนอิม

ให้  3/5 ดาว

หาด Repulse Bay ไม่สวยเท่าของไทย แต่ก็เดินได้บรรยากาศดี ส่วนวัดเจ้าแม่กวนอิม ฉันคิดว่าวัดเล็กมากและไม่ได้สวยอลังการอะไร (อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัว) ชอบใจตรงที่มีประวัติและความเชื่อแฝงอยู่

เสร็จจากวัดก็เดินกลับไปขึ้นรถเมล์ มองนาฬิกาแล้วยังมีเวลาอยู่ เลยขึ้นรถเมล์สาย 6, 6A, 6X, 66, 260ไปที่ Central แล้วเดินต่อไปที่ Central Mid-Level’s Escalator บันได้เลื่อนกลางแจ้งที่มีความยาวถึง 800 เมตร

หาไม่ยาก อยู่บนถนนของราชินี Queen’s road ชื่อเท่เชียว ลงรถมาแล้วเดินหาป้าย Central Mid-Level’s Escalator จะติดไว้ชัดเจนมาก

คนที่จะไปเช้าๆระวังหน่อยนึง คือตอนเช้าบันได้จะเลื่อนลง แล้วจะปรับเลื่อนขึ้น 10.00 น. เป็นต้นไป

ชอบตรงที่คนที่นี่มีระเบียบวินัยเวลาขึ้นบันได้เลื่อน จะยืนทางขวา ให้คนที่รีบแซงซ้ายไปได้ ฉันชอบเผลอยืนมันตรงกลาง (นิสัยเสียชะมัด) คุณสำลีต้องสะกิดเตือนบ่อยๆ

1391855131-201DSC0483-o

ด้วยความที่ยังไม่ฟินกับทาร์ตไข่เมื่อเช้า ฉันเลยแวะชิมทาร์ตไข่เจ้าอร่อยในฮ่องกงที่ Tai Cheong Bakery ให้ตามหาถนน Lyndhurst Terrace ลงบันไดเลื่อนมาแล้วเจอตลาดด้วย แต่ร้านไม่ได้อยู่ในตลาดนี้นะ พวกเราไปหลงมาแล้ว

1391855156-202DSC0483-o

งมอยู่นานพอสมควรเลยจนต้องถามคนแถวนั้น อธิบายภาษาใบ้ชั่วครู่ ก็ได้ไปเยือนสมใจ

ถึงแล้ว ร้านสีฟ้าน่ารักเชียว แต่คนเยอะชะมัด

1391855183-203DSC0557-o

มองหาทาร์ตไข่เป็นอันดับแรก ชินละ 6 HKD สมเหตุสมผลแบบนี้จัดมาเลย 5 ชิ้น เผื่อเอาไปกินแก้หิวบน The Peak ข้างๆมีขนมเปี๊ยะขาย เลยจัดมาอีก 2

1391855212-204DSC0557-o

พากันไปนั่งกินข้างล่างบันไดเลื่อน ร่มรื่นดี มีม้านั่งอยู่อีกด้าน

1391855351-207DSC0556-o

รูปร่างหน้าตาทาร์ตไข่แบบฉบับฮ่องกง

1391855265-205DSC0485-o

ทาร์ตไข่เอาไปเลย 4.5/5 ดาว

ตอนกินร้อนๆนี่แบบฟินมาก แทบลอย ตัวไส้ไข่นุ่มนวลกำลังดี ส่วนแป้งก็แข็งๆเหมือนแป้งพายซึ่งเราชอบมว๊ากกก แอบหักนิดหนึ่งตรงที่กินไปเรื่อยๆยังไม่หมดหนึ่งชิ้นเลยรู้สึกเลี่ยนแล้ว และกินตอนที่มันเย็นแล้วไม่อร่อยเลยค่ะ

ทาร์ตไข่จบไป มาลองขนมเปี๊ยฮ่องกงกันบ้าง

1391855295-206DSC0557-o

0.5/5 ดาว 

หาความอร่อยไม่ได้เลย หวานเลี่ยนมาก แล้วฉันดันสั่งไข่เยี่ยวม้ามาอีก (คราวนี้เค้าตั้งชื่อว่า Thousand year egg นึกว่าจะชื่อว่า century egg อย่างเดียว ทีนี้จำฝังใจเลย million year egg ตรูก็จะไม่สั่ง) กลับไทยต้องรีบซื้อขนมเปี๊ยครูสมทรงสร้างความทรงจำดีๆกับขนมเปี๊ยะกลับมาด่วน

สรุปคะแนน Central Mid-Level’s Escalator

4/5 ดาว

คนอื่นอาจมองว่าไม่มีอะไร ส่วนตัวชอบนะ คิดว่ามันเป็นสิ่งที่แสดงว่าทางการฮ่องกงเค้าใส่ใจประชาชนที่อยู่บนเขาว่าจะเดินทางลำบาก อีกทั้งมันเป็นสถานที่ที่ไม่ได้มีแต่นักท่องเที่ยว ฉันได้ไปเห็นวิถีชีวิตของคนแถวนั้นจริงๆ บางคนเพิ่งกลับจากงาน เร่งรีบ ขึ้นบันไดเลื่อนไปโทรศัพท์ไปตลอด บางคนเป็นแม่บ้านธรรมดา เหมือนลงมาจับจ่ายใช้สอยแถวนั้น ตลอดทางมีตลาด ร้านค้าให้เลือกชิมเลือกซื้อ ดูมีชีวิตชีวาดี

ต่อไปเราจะนั่งรถเมล์สาย 15 ขึ้นไป The Peak กัน จากเดิมจะไปด้วย Peak Tram แต่เห็นว่าต้องไปรออย่างน้อยชั่วโมงหนึ่งแล้วนั่งแบบเบียดๆกันไปอีก ถ้าโชคไม่ดีอาจต้องยืน เลยไปรถเมล์ดีกว่า ประหยัดกว่าด้วย (อันนี้ประเด็นสำคัญ 555) หลังจากฟินกับทาร์ตไข่เสร็จ พวกเราก็เดินกันไปขึ้นรถเมล์สาย 15 กันที่ใต้ตึก Exchange Square

1391855443-208DSC0487-o

คนรออยู่เยอะทีเดียว รออยู่ซักประมาณ 15 นาทีรถก็มา ติ๊ด Octopus ขึ้นรถไปได้เลย ค่าโดยสารอยู่ที่ 9.8 HKD

รถใช้เวลาวิ่งอยู่พอสมควร น่าจะประมาณ 40 นาที เพราะต้องฝ่าฟันรถติดในเมืองตอน 5 โมงเย็น (รถติดนิดหน่อย แต่คนละเรื่องกับบ้านเรา) จากเดิมที่กะว่าจะต้องขึ้นมาประมาณ 5.30 น. ถึงจริงๆคือ 6.30 น. ทไวไลท์หนูไปหมดแล้ว มืดตื้ดเลย

แถมภาพตึกคู่ที่แชะได้ระหว่างที่รถติดอยู่ในเมือง ไม่รู้ชื่อว่าอะไร สวยดี

1391855478-209DSC0486-o

รถจะจอดส่งตรงชั้นใต้ดินของ Peak Tower แต่ฉันก็เอ๋อจนหาทางขึ้นไปดูวิวไม่ถูก ตอนแรกคุยๆกันอยู่ว่าจะยอมเสียเงินคนละ 40 HKD ไปถ่ายวิวกันบน Sky Terrace ดีมั้ย ฉันอยากไปนะ (ถึงจะต้องเสียเงิน) เพราะข้างนอกหนาวมาก อยู่บนภูเขาสูง ลมพัดแรงโคตรๆ จังหวะนั้นไม่อยากออกไปเดินข้างนอกจนลืมงก แต่คุณสำลีไตร่ตรองดูแล้วว่าคนข้างบนต้องเยอะแน่ๆ แล้วนางไปทำ research มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ว่ามีที่ดูวิวสวยๆอีกที่ Peak Trail (ฉันนี่สยองมาก นายจะให้ชั้นไปเดินข้างนอกมืดๆโดยที่ไม่รู้ว่าจุดชมวิวอยู่ไหนเนี่ยนะ) คุณสำลีค้นกระเป๋ากุกกัก หยิบถุงมือออกมายื่นให้พร้อมบอกว่า ปะ ที่รัก เราออกไปสำรวจธรรมชาติกันเถอะ (ไม่ร้งไม่รักแล้วตอนนี้ ทำกันได้ลง)

อีกอย่างที่แค้นมาก คือไอทาร์ตไข่ที่อุตส่าห์หอบหิวมาจากบันไดเลื่อนเมื่อกี้ มีขายอบใหม่ๆร้อนๆที่นี่ น้ำตาจะไหลด้วยความโศกเศร้า

ออกไปเผชิญกับความหนาว เดินทางไปตาม Peak Trail (คือเส้นทางศึกษาธรรมชาติรอบ The Peak) ตอนแรกเดินผิดทาง T^T เจอวิวตึกแต่ภูเขาบังทั้ง 2 ข้าง (คล้ายๆที่เห็นตามรีวิวที่ไปถ่ายข้างบน Sky Terrace) ฉันว่าก็โอเคแล้วนะ แต่นางบอกว่าไม่เอา ไม่ใช่ มันต้องภูเขาบังข้างเดียว (ตรูจะแข็งแล้วนะ จะบังอีกข้างมันจะเป็นอะไรมากไหม) นางชี้ให้ดู เธอสังเกตสิ ไกลลิบๆโน่น (ชิหายแล้ว โคตรไกล) มีไฟเป็นระยะๆคล้ายทางเดิน นี่แสดงว่าพวกเรามาผิดฝั่งนะ (แหม มาฉลาดอะไรตอนนี้ยะ)

เหลือบมองไปข้างบน Sky Terrace ก็เห็นคนยั๊วะเยี้ยยึบยั่บดั่งที่นางว่าเอาไว้

1391855568-210DSC0490-o

เพื่อหลายๆท่านจะได้ไม่ต้องไปหลงแบบพวกเรา จะขอรีวิวทางไปโดยละเอียด

เริ่มด้วยอ้อมไปข้างๆ Peak Tower ทางที่จะไปจะมีลักษณะตามรูป สังเกตตรงกลางของรูปจะเห็นรั้วเขียวๆอยู่ ไปทางนั้นโลดเลย

1391855602-211DSC0561-o

ก่อนเข้ารั้วเขียวจะมีป้ายเขียนว่า Lugard Road/ Hong Kong Trail ถ้าเจอป้ายนี้แสดงว่าคุณมาถูกทางแล้ว

1391855624-212DSC0561-o

ลักษณะทางจะล้อมด้วยรั้วเขียวตลอดทาง มีไฟส้มส่องทางเป็นระยะ ต้องนำไฟฉายไป เพราะช่วงที่มืดก็มีเยอะ

1391855690-213DSC0561-o

เดินไปเรื่อยๆ ไกลเหมือนกัน น่าจะประมาณเกือบ 1 กิโล ถ้าจำไม่ผิด ก็เจอจุดชมวิว

จะมีทั้งหมดประมาณ 3 จุดได้ที่วิวสวย แต่ฉันค่อนข้างประทับใจกับจุดแรกสุดเลยที่เจอ แบบเดินแหวกพงหญ้าอย่างสิ้นหวังอยู่ดีๆก็ได้ตะลึงกันทีเดียว ไร้ภูเขาบัง มีกิ่งต้นไม้มารบกวนเล็กน้อยที่คุณสำลีบ่นว่าอยากปีนไปตัดยิ่งนัก (ดู๊ดู นางยังไม่พอใจอีก)

อันนี้ขโมยมาจากกล้องนาง แบบมุมกว้างหน่อย

1391855729-DSC04946-o

สงสัยนางคงหมั่นไส้ต้นไม้ทางขวามาก เลยเปลี่ยนเลนส์เพื่อตัดมันทิ้งซะ (ถ้าไม่ห้าม นางคงปีนลงไปตัดเอง = =^)

1391855861-DSC04970-o

ระหว่างที่คุณสำลีตั้งกล้องถ่ายรูป ฉันถ่ายสองแชะแล้วนั่งกินทาร์ตไข่ที่เอามาด้วย จำได้ว่าเย็นชืด เลี่ยน และไม่ค่อยอร่อยแต่บรรยากาศตอนนั้นนี่กินอะไรก็ฟิน แบบวิวตึกนี่แทบจะทิ่มตา รู้สึกว่าเราถูกโอบล้อมไปด้วยตึก หมอกลงนิดๆด้วยดูโรแมนติกมาก (เพ้ออยู่คนเดียว คุณสำลีเห็นวิวแล้วไม่สนใจฉันเลย กดอย่างเดียว) ฉันลอง video call กับครอบครัวผ่าน application Line สัญญาณแถวนั้นใช้ได้ ถ่ายทอดสดไปที่บ้านกันทีเดียว

หลังกลับมาจากการศึกษาธรรมชาติ พวกเราก็หาจุดชมวิวบน Peak Tower เจอ =.= ก็พบว่าวิวเป็นเหมือนที่เห็นในรีวิวจริงๆด้วย

1391855951-DSC05029-o

ไปส่องกล้องโทรทรรศน์มาด้วย ซูมจนจะเห็นคนบนตึกดาบแล้ว สุดยอดพลังเลนส์

ขากลับก็ไปรอรถเมล์สาย 15 จุดเดียวกับที่ลงรถตอนขามา ฉันสังเกตว่าคนขึ้น Peak Tram เยอะมาก ทั้งไปและกลับ นึกดีใจอยู่นิดนึงที่เลือกรถเมล์

ระหว่างที่รอคิวอยู่ มีคนฮ่องกงมาถามเวลากับฉันเป็นภาษาจีน แงะ ฉันเลยตอบอังกฤษกลับไป ลุงแกเก่งอ่ะ คุยต่อเป็นอังกฤษได้ แล้วถามว่ามาจากไทยใช่ไหม ฉันก็งงว่ารู้ได้ไง แกชี้ไปที่คุณสำลีแล้วบอกว่าเหมือนคนไทย แต่เราเหมือนคนจีน แป่ว แล้วลุงแกก็ถามสถานการณ์การเมืองต่อไป topic นี้ฮ๊อตไปถึงต่างแดนแล้วนะ 555 ระหว่างนั้นมีนักท่องเที่ยวชาวจีน เดินแทรกขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วก็ทำเป็นคุยกับคนฮ่องกงข้างหน้า หันมาคุยกับคนข้างหลังบ้าง แบบเนียนเหลือเชื่อ ถึงเคืองก็แอบขำ

1391856018-214DSC0503-o

นั่งไปจนสุดสาย 15 จะจอดที่ท่าเรือ Star Ferry พอดี เราก็มุ่งไปที่ Pier 7 ท่าเรือเดิมกับตอนขามา

สรุปคะแนน The Peak

5/5 ดาว

ถึงนั่งรถขึ้นไปค่อนข้างนาน เดินหาจุดชมวิวอยู่ค่อนข้างนาน แต่ก็เหมือนกับการผจญภัย (เป็นสิ่งที่จำได้แม่นที่สุดแล้ว) และผลที่ได้คือการดื่มด่ำวิวที่สวยมากๆๆๆๆๆเงียบๆ ไม่ต้องไปแย่งกับใคร ตอนนั้นนี่รู้สึกฟินจนความหนาวทำอะไรไม่ได้เลย (แต่หลังจากนั้นแทบแข็ง)

ขากลับโดยเรือ Star Ferry ก่อนขึ้นเรือขอ IFC2 ยามค่ำคืนอีก 1 รูป

1391856212-DSC05038-o

ที่ท่าเรือมีนักดนตรีมาเล่นและร้องเพลงเรี่ยไรเงิน จะไม่แปลกอะไรเลยถ้าไม่มีคนมานั่งฟังอย่างจริงจังมาก

1391856362-215DSC0567-o

เนื่องจาก Sushi One ที่วางแผนกันไว้เป็นมื้อเย็น ต้องไปกินหลัง 4 ทุ่มเป็นต้นไปถึงจะลด 50% พวกเราถึง Tsim Sha Tsui ประมาณสามทุ่มนิดๆ เลยเดินเล่นหาอะไรรองท้องตรงท่าเรือ

เห็นร้านขายน้ำมะม่วงปั่น Hui Lau Shan เหมือนกับที่ Causeway Bay ก็ตรงปรี่เข้าไปเลย จัดมา 1 แก้ว 35 HKD

1391856413-216DSC0567-o

5/5 ดาว

ขนาดว่าหนาวๆ  แต่แย่งกันดูดหมดภายใน 10 นาที น้ำมะม่วงปั่นนี่ว่าเข้มข้นแล้ว ผสมเนื้อเป็นชิ้นๆเข้าไปอีก ข้างล่างมีวุ้นๆ คาดว่าเป็นว่านห่างจระเข้ เลยหนุบหนับ หวานฉ่ำสลับเปรี้ยวแหลมเบาๆอย่างลงตัว

ระหว่างนั้นฉันเกิดท้องเสียขึ้นมาเลยวิ่งกลับโรงแรมกันแทบไม่ทัน เหงื่อซึมเลย จริงๆหลังจากถ่ายท้องไป 30 กว่านาทีก็ไม่เหลือความหิวแล้ว แต่เห็นคุณสำลีรอคอยซูชิมาทั้งวัน ก็ทำใจไล่ให้ไปกินลูกชิ้นหน้าโรงแรมไม่ลง ไหนๆก็ไหนแล้วก็ไปจัดกันที่ Sushi One

เกือบจะห้าทุ่มแล้วคนยังรอคิวกันอย่างหนาแน่น รอประมาณ 15 นาทีก็ได้เข้าไปนั่ง

1391856460-217DSC0569-o

มีเมนูอยู่ตรงหน้าให้หยิบดูเลย มีรูปพร้อมภาษาจีนและอังกฤษรวมทั้งราคากำกับชัดเจน

1391856549-218DSC0568-o

เลือกได้แล้วก็ติ๊กๆๆๆลงแผ่นนี้ แยกตามประเภทอาหาร

1391856503-219DSC0568-o

ที่ลด 50% จะเป็นพวกซูชิอย่างเดียว ของหวานเครื่องดื่มไม่นับ (ต้องดูให้ดี ทางร้านจะดอกจันทร์ตัวเล็กๆไว้ว่า Midnight Sushi 50% off NOT available) ต้องทานรวมกันให้ถึง 80 HKD ใน 1 บิล (พอลดแล้วเหลือ 40 HKD เองน้าาา) เลยจัดไปหลายจานเลย กลัวไม่ถึง (จริงๆแล้วเกินไปเยอะ 555)

เมนูแรกแซลมอลย่าง จำราคาไม่ได้ น่าจะตกประมาณ 24 HKD ต่อ 2 ชิ้น

1391856613-220DSC0511-o

3/5 ดาว

คุณสำลีที่ชื่นชอบการกินปลาดิบ (อันนี้มันกึ่งดิบ ฉันเลยกินไม่อร่อย) ฟันธงมาแล้วว่าเฉยๆ ไม่ได้ต่างจากกินที่ไทย(ในร้านไม่ไฮโซ) ไม่ได้ฟินมากมายนัก คำกลางๆนะคะ ไม่เล็กหรือใหญ่เว่อร์

มวลหมู่ปลาดิบ (จำราคาไม่ได้)

1391856655-221DSC0511-o

3/5 ดาว ด้วยเหตุผลด้วยกับเมนูที่แล้ว

ปลาไหลจัมโบ้ 24 HKD ต่อชิ้น

 

2.5/5 ดาว

ให้คะแนนความอลังการของชิ้นปลาแต่รสชาติสู้ชิ้นเล็กๆไม่ได้ เนื้อหยาบไปนิด แอบผิดหวังอ่ะ แต่ดันสั่งมาตั้ง 3 ชิ้น

ปูอัดราดไข่กุ้งมายองเนส จำราคาไม่ได้อีกเช่นกัน แต่คิดว่าแพงอยู่

1391856701-223DSC0570-o

4/5 ดาว

อันนี้ฉันชอบ สั่งมา 2 จานเลย ปูอัดอร่อย ส่วนไข่กุ้งผสมมายองเนสก็มันๆหวานๆเปรี้ยวๆเข้ากับปูอัดได้ดี

ปูอัดกับกุ้งมัดรวมกัน (จำราคาไม่ได้)

1391856725-224DSC0569-o

2/5 ดาว

ไม่อร่อยอ่ะ แถมยังธรรมดามาก จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าสั่งมาจนมาเห็นรูป 555

แคลิฟอร์เนียโรล

1391856751-225DSC0512-o

3.5/5 ดาว

อร่อยแต่ยังธรรมดา ให้คะแนนมากหน่อยตรงไข่กุ้งเม็ดใหญ่สะใจดี มันแตกในปากแบบแปะๆๆเลย

ปลาไหลเล็ก 24 HKD

1391856777-226DSC0570-o

3.5/5 ดาว

น่าแปลกใจที่แบบเล็กอร่อยกว่าแบบใหญ่ หวานๆ มันๆ กำลังดี

และแล้วก็มาถึงเมนูเด็ดที่สั่งไปถึง 2 จาน ไข่หวานย่าง 14 HKD

1391856801-227DSC0570-o

เอาไปเลย 5/5 ดาว

น้ำตาจะไหลด้วยความฟิน ไข่ไหม้น้ำตาลนิดๆ หวานหอม มาแบบร้อนๆ กินเข้าไปนี่ฟินมากกกกกกกกกก ถูกกว่าเมนูอื่นด้วย ขอบอกว่า ประทับใจอ่ะ

สรุปคะแนนมื้อนี้ที่ Sushi One 3.45/5 ดาว แบ่งเป็น

ความอร่อย           3.3/5           (มีทั้งผิดหวังไปจนถึงประทับใจมากเลยค่ะ)
สถานที่                  2.5/5           (คับแคบมาก ศอกชนศอก ไอ้คนข้างๆก็เล่นนั่งมาจนจะซบเราอยู่แล้ว บอกให้ขยับไปก็ไม่ฟัง)
การบริการ               3/5            (รีบๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไรแขกมาก แต่พนักงานพูดรู้เรื่อง ฟังภาษาอังกฤษได้ชัดเจน)
ราคา                        5/5             (ถูกกว่าที่ไทยอีก ทั้งๆที่ค่าเงินแพงกว่า ทั้งมื้อหมดไป 161.8 HKD หาร 2 แล้วเหลือคนละ 300  กว่าบาท แต่อิ่มแปล้ สะใจมาก)

หลังจากกินจนลืมว่าท้องเสียอยู่ไปแล้ว ก็กลับไปอาบน้ำนอนด้วยความอิ่มมาก อ่อ ต้องสระผมด้วย เหม็นบุหรี่มาก แง จบวันที่ 3 แต่เพียงเท่านี้

ใน post หน้า ฉันจะพาเพื่อนๆนั่งเรือข้ามไปยังมาเก๊า สัมผัสวัฒนธรรมจีนผสมโปรตุเกสและคาสิโนขนาดใหญ่ อย่าลืมติดตามน้าา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*