อาชีพ consultant คือสิ่งใด?

ปัญหาจะเกิดทุกครั้งเมื่อมีคนถามว่า “ทำงานอะไรอยู่ตอนนี้” พอบอกว่าเป็น “consult” เกือบ 100% ที่คนฟังจะทำหน้างงๆ หยุดคิดนิดนึง แล้วถามต่อว่า “มันคืออะไรล่ะ?!?” ก็นั่นสินะ มันคืออะไรกันแน่

ให้ตอบตรงๆคือตอนสมัครงานไป ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร รู้แต่ว่าได้ใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ต้องเขียนโปรแกรม บริษัทค่อนข้างมีชื่อเสียง แล้วก็ทำไม่นานเพราะจะไปเรียนต่อเร็วๆนี้ เลยก็ไม่ได้ใส่ใจเหมือนกันว่าจะต้องไปทำอะไร ด้วยโชคหรืออะไรก็ตามทำให้ผ่านสัมภาษณ์ 3 รอบเข้าไปได้ (ตอนนั้นคิดว่าจะสัมภาษณ์อะไรกันหนักหนา มีรอบหนึ่งสัมภาษณ์แล้วหายไปหลายเดือนจนคิดว่าไม่น่าจะได้แล้ว) แล้วก็เข้าไปเริ่มงานแบบงงๆ

เวลาพ่อแม่ถามว่า “มันคืองานอะไร” ฉันก็จะอธิบายสิ่งที่ทำอยู่ ณ ตอนนั้น ซึ่งเหมือนเป็นแค่กิจกรรมหนึ่ง ยังไม่ใช่ภาพรวมหรือนิยามของอาชีพนี้ พอถามใหม่ คำตอบก็จะเปลี่ยนไปทุกครั้งจนคนถามงง ฉันก็งง ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เข้าใจ อาจจะเพราะ ฉังเองก็ไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองทำอยู่เหมือนกัน

จุดเปลี่ยนอยู่ที่ ตอนนั้นไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสกับเพื่อนๆ คนหนึ่งเป็น Quality Assurance (QA) อยู่ Microsoft บริษัทที่ใครๆก็รู้จัก อีกคนเป็น programmer อยู่ Thomson Reuter พี่ที่เจอกันในคลาสออกกำลังกายบ่อยๆ ถามว่าน้องๆทำงานอะไรกันอยู่ เข้าพล็อตเดิม

พี่:     น้องเจนทำงานอะไรจ้ะ
ฉัน:   เป็น consult ค่ะพี่
พี่:     (อึ้ง จนรู้สึกได้) อ๋ออออ (ด้วยความไม่เข้าใจ แล้วหันไปถามเพื่อนๆที่เหลือ) น้อง A กับ B ล่ะ
A:     ผมอยู่ Microsoft ครับ
B:      ผมเป็น Programmer
พี่:      ต๊ายยย เก่งจังเลย เด็กสมัยนี้ (สีหน้านางปลื้มมาก)
ฉัน:   (ยืนอิจฉาอยู่เงียบๆ)

วันนั้นเลยกลับมา นั่งคิดคำนิยามให้งานตัวเองอยู่คนเดียว เพื่อที่จะเอาไว้ใช้อธิบายคนทั่วไปให้เข้าใจสิ่งที่ตัวเองทำ จากการทดลองมาแล้วหลายสิบครั้ง พบว่าคำอธิบายนั้น จะได้ผลเมื่อยกตัวอย่างประกอบไปด้วย

นิยามอาชีพ consultant ของฉัน (จากประสบการณ์ทำงาน 2 ปี) คือ

งาน consult คือการให้คำปรึกษา แก้ปัญหาให้ลูกค้าในเรื่องต่างๆ สากกะเบือยันเรือรบ เช่น เวลาบริษัทใดๆจะขึ้นระบบใหม่ ขยายสาขา คิดกลยุทธ์ทางด้าน IT หรือปรับโครงสร้างองค์กร ฯลฯ แล้วเผอิญว่าไม่มีความเชี่ยวชาญ ความรู้ ประสบการณ์ (พูดตรงๆคือไม่เคยทำ ทำไม่เป็น  หรือต้องการคนช่วย) ก็จะมาจ้างเหล่า consult ไปให้คำปรึกษานั่นเอง

เคยไปถามเจ้านายเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาอธิบายโดยเปรียบเทียบอาชีพเรากับหมอ ลูกค้าคือคนป่วยที่เดินมาหาหมอ พร้อมบอกอาการ คนเป็นหมอห้ามเชื่อทันที  ต้องวินิจฉัยโรคก่อน แล้วค่อยจ่ายยา ให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับคนไข้ ถ้าเปรียบเทียบกับอาชีพ consult คือ ลูกค้าจะบอกสิ่งที่ต้องการมา ศัพท์ในวงการคือ “solution” ที่อยากได้ เช่น อยากซื้อระบบ IT ใหม่ เพราะของเก่ามันกากเกิน ใช้เวลานานกว่าจะออกรายงานให้ผู้บริหารได้ อยากให้ทางเราช่วยเก็บ requirement ให้หน่อย แต่พอเข้าไปดูจริงๆแล้ว มันอาจจะเป็นที่กระบวนการการทำงาน เช่น พนักงานพิมพ์ข้อมูลออกมาให้หัวหน้าเซ็นอนุมัติ 7 ทอด ก่อนเอามาออกเป็นรายงานได้ เป็นต้น ดังนั้นเวลาให้คำแนะนำ ก็ต้องบอกลูกค้าให้ไปแก้ที่กระบวนการการทำงาน ไม่ใช่ตัวระบบ

งาน consult มันก็มีหลายแบบ เอาแบบที่เราจัดเอง ก็ตามนี้

  1. Strategy House:
    บริษัทที่ดังๆที่พูดชื่อขึ้นมาแล้วใครๆก็นึกออก คือ Mckinsey & Company, Boston Consulting Group (BCG) พวกนี้ในความคิดของฉันจะเป็นพวก fly high ให้คำปรึกษาระดับกลยุทธ์โดยรวมของบริษัท (corporate strategy) โจทย์ของพวกเค้าจะกว้างเป็นมหาสมุทร เช่น ทำยังไงให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น 20% ในอีก 3 ปีข้างหน้า (=..=) ขอทำจมูกบานแป๊บ ดังนั้นคนที่ทำงานบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นอัจฉริยะกลับชาติมาเกิด จบ MBA มาจากมหาวิทยาลัย top 10 ของอเมริกา อังกฤษ บลาๆ ค่าตัวแพงลิบ จ่ายค่า consult ทีเป็นเลข 9 หลัก เงินเดือนของ consultant เหล่านี้จะอยู่ที่หลักแสน (เรทเดียวกันทั่วโลก ดังนั้นทำงานที่เมืองไทย ย่อมเก็บเงินได้มากโขกว่าทำงานต่างประเทศ เพราะค่าครองชีพต่ำกว่า) แต่ก็ทำงานหัวขวิดไปตามๆกัน
  2. Big 4:
    PwC, Deliotte, KPMG, E&Y 4 บริษัทนี้มี service แบ่งเป็น audit (ตรวจสอบบัญชี), tax (ให้คำปรึกษาด้านภาษี), advisory (หรืองาน consult) ที่แข่งกันจริงน่าจะเป็นฝั่ง audit หรือตรวจสอบบัญชีมากกว่า เพราะงาน  consult บางที่ก็ยังไม่มีแบบเต็มรูปแบบ บริษัทเหล่านี้จะทำระดับ operation ละเอียดมากกว่า เฉพาะเจาะจงมากกว่ากลุ่มแรก ค่าตัวก็ลงตามไปด้วย ที่คิดลูกค้าอาจเป็นประมาณ 7-8 หลักหรือมากกว่า ทำงานจนสมองจะกระเซ็นออกมาเหมือนกัน
  3. Consultant + Implementer 
    ส่วนใหญ่จะเป็นด้าน IT เช่น Accenture,  IBM, บริษัท SAP consulting ต่างๆ บริษัทพวกนี้จะให้คำปรึกษา พร้อมทั้งติดตั้งระบบให้ด้วย (คือคิดให้ทำให้เสร็จสรรพ ในขณะที่ 2 กลุ่มบนจะคิดให้อย่างเดียว บริษัทต้องเอาไปทำต่อเอง) ไม่ต้องบอกว่างานน่าปวดหัวและหนักจนขนหัวลุก ใช้ชีวิตอยู่ในบริษัทตัวเองหรือบริษัทลูกค้าอย่างต่ำ 12 ชั่วโมง พนักงานในบริษัทเหล่านี้ เวลากลับบ้านที พ่อแม่อาจจะถามว่า “หนูมาหาใครหรอจ้ะ” ก็เป็นได้
  4. Other Specialist:
    เชี่ยวชาญเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง เช่น Hay Group จะให้คำปรึกษาในด้านการจัดการทรัพยากรบุคคล (HR) อย่างเดียว ก็มี

เดี๋ยวนี้ฉันสามารถทำให้คนทั่วไปเข้าใจได้แล้วว่าตัวเองทำงานอะไร เพียงแค่ต้องใช้เวลาในการอธิบายซักหน่อยเท่านั้นเอง 😛

15 comments

  1. นึกว่าเป็นเราคนเดียว ทีมีปัญหาเรื่องนี้ซะอีก

    ส่วนมากจะอธิบายสั้นกับเพื่อนว่า

    อาชีพที่ขายเสียง และขายกระดาษ

    เน้นนำเสนอหน้าตาและความคิด 🙂

    • นิยามเจ๋งดี 555 เราว่าอาชีพนี้อธิบายยาก พวกเรายังใช้เวลาตั้งนานกว่าจะเข้าใจเลย

  2. ถ้าอยากเป็น consult ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างคะ?
    ส่วนตัวทำงานธนาคารมา 7 ปี อายุ 30 แล้วnn1

    • แยกเป็น 2 อย่างค่ะ
      1) technical skills ขึ้นอยู่กับถนัดอะไร จริงๆ consult มีหลายด้าน ถ้าทำงานธนาคารมา มีความรู้ด้านการเงิน อาจเลือกเป็น consult ด้าน finance ได้ค่ะ

      2) soft skills หลักๆคือความสามารถในการคิดวิเคราะห์ (analytical skills), presentation skills, communication skills (เอาสิ่งที่คิดในหัวมาแปลเป็นข้อความ diagram สื่อออกมา), learning curve ต้องสูง, ปรับตัวง่าย และมี “can do” attitude ค่ะ

      • เดวิด

        การเป็นconsult แบบอิสสระ ไม่ต้องผ่านบริษัทได้หรือไม่?

        • ได้ค่ะ แต่อาจจะมีปัญหาด้านความน่าเชื่อถือและองค์ความรู้ (ในกรณีทำงานคนเดียวเพราะจะปรึกษาหรือหยิบยืมความรู้จากคนอื่นได้ไม่มาก) ดังนั้นงานที่น่าจะหาได้น่าจะเริ่มที่สเกลเล็กๆ บริษัทเล็กๆ

  3. ติดตามอ่านมาจากกระทู้ สอบ TOEFL ในพันทิพ มาจนถึง blog เลยค่ะ คือก็หวั่นกับการสอบ TOEFL เหมือนกัน จะไปสอบครั้งที่ 2 อีก 3 วันแล้วค่ะ เตรียมเท่าไร มันก็ไม่พอจริงๆ ^^”

    เคยเป็น consultant ด้านการพัฒนา soft skills อยู่ 2 ปี ก็ยังชอบงานแนวนี้นะคะ แต่ไม่รู้ว่าจะข้ามสายไปลองแนวอื่นได้บ้างรึป่าว พอจะมีคำแนะนำบ้างไหมค่ะ???

    • สู้ๆเรื่องสอบโทเฟลค่ะ ขอให้ได้คะแนนตามที่ตั้งใจไว้

      เรื่อง consult ไม่แน่ใจว่าควรแนะนำอย่างไรดี เอาเป็นว่าถ้ามีคำถามอะไรถามได้เลยค่ะ เต็มใจตอบnn1

  4. กำลังจะเซ็นสัญญากับ BIG4 แห่งหนึ่งครับ ตำแหน่ง Senior Consult
    ได้มาอ่าน blog นี้แล้วกระจ่างขึ้นเยอะเลย
    เอาจริงๆคือตอนแรกอยากไปทำ แต่หลังจากอ่านมาหลายๆบทความผมเริ่มสยองละ
    ปัจจุบันคือทำงานอยู่องค์กรใหญ่ สบายและชิวมาก
    อยากย้ายออกไปลองอะไรใหม่ๆ แต่ก็เสียดายความสบาย
    โดน comfort zone ดูดไปซะแล้วนั่นเอง 555

    • สู้ๆค่ะ ทุกอาชีพมีดีมีเสีย ขึ้นอยู่กับว่าเรารับข้อเสียของอาชีพไหนได้

  5. ทำงาน IT มา 8ปี 4ปีแรก admin ทำทุกอย่าง server datacenter 4 ปีถึงปัจจุบัน Implement ล้วน แล้วแต่ product อันไหนขายได้ กำลังจะเป็น Consult คิดถูกหรือผืดไม่แน่ใจตัวเอง หรือมีอย่างอื่นแนะไหมครัช

  6. อยากรู้ครับว่า ถ้าจะเริ่มเป็น Consult โดยจบมาจากมหาลัยมาได้ซักพัก สามารถเริ่มต้นยังไงได้บ้างครับ คือหลักๆผมอยากได้ประสบการณ์ และสนใจงานด้านการให้คำปรึกษา เพราะคนมาปรึกษาบ่อยด้วย ผมเลยอยากรู้ว่ามันต้องละเอียดแค่ไหน concern เรื่องอะไรบ้าง (กลัวทำธุรกิจเจ๊ง555+)
    ปล. ผมมีงานประจำทำแล้วด้วยครับ (งานประจำนี้ผมเป็นคนเดียวในแผนกเลยด้วย ไม่ค่อยมีคนสอนงาน เรียนรู้จักงานที่ทำคนเดียวทั้งนั้น ผมถือคติที่ว่า “อย่าไปคิดว่าที่ทำมันผิด ถ้ามันสามารถใช้ได้ มันก็ถูกต้อง” // อยากเริ่มให้คำปรึกษาคนอื่นแบบจริงจังซักทีครับ 555

  7. จากรุ่นน้องลาดกระบังงงง

    เพิ่งได้งานตอนที่ SAC- PWC ค่ะ ได้แบบค่อนข้างบังเอิณ ตอนแรกจะไปสัมภาษเครียดมากเพราะกลัวเค้าถามแบบพวก case ของ mckinsey แบบนี้ ยังคิดเลยว่าไม่น่าได้แล้ว ตอนนี้ไปตามงานประสบการณ์ทำงานของพี่ อยากบอกเลยว่าพี่สุดยอดมากกกขอยกเป็น idol สำหรับเรื่อง passion เรื่อง upward mobility อ่านแล้วทัชใจมาก ขอฝากตัวเป็น FC อย่างเป็นทางการ

    • ขอบคุณมากๆค่ะ แล้วยินดีด้วยกับงานใหม่นะคะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*